ใครจะว่าไงไม่สำคัญ สิงคโปร์จะถอย เวียดนามจะขอจบอันดับ 3 ในตารางเหรียญ ลาวจะถอนตัวไม่ขอส่ง กุน ขแมร์ เจ้าภาพจะตุกติก กีฬาพื้นบ้านจะเยอะ ซีเกมส์จะไม่ขัง ใครจะดู ใครจะไม่ดูไม่เป็นไร ไทยจะขอลอยตัวเหนือดราม่า ครองเจ้าเหรียญทองอยู่ดี เพื่อเรียกศรัทธาจากแฟนๆ กีฬาทั่วประเทศ
ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงกับ “ซีเกมส์” ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ หลังจากก่อนหน้านี้จุดกระแส “กุน ขแมร์” ให้ดราม่าไปทั่วโลก ด้วยการเปลี่ยนชื่อจาก “มวยไทย” เป็น “กุน ขแมร์” ในศึกซีเกมส์ครั้งนี้ โดยอ้างว่า ชาติของตนนั้นคือต้นตำรับอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมี “ดราม่า” กับกีฬาเพาะกาย โดยประเทศเจ้าภาพได้ถอดกีฬาเพาะกายออกจากซีเกมส์ พร้อมกับตัดโอกาสหลายๆชาติในการชิงเหรียญทองกับกัมพูชาอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ระเบียบข้อบังคับการแข่งขันของเจ้าภาพ มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเดิม เพื่อให้เจ้าภาพได้เปรียบในการแข่งขัน อีกทั้งยังมีเรื่องราวความไม่พร้อมของที่พัก ซึ่งทำให้ชาติสมาชิกที่ส่งนักกีฬาร่วมแข่งขันเกิดอาการเซ็งไปตามๆ กัน
และประเด็นที่กัมพูชาจะเก็บค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ 28 ล้านบาทจากไทย ทั้งที่ตามธรรมเนียมปฏิบัติทุกชาติสมาชิกจะได้ดูฟรี ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้โลกโซเซียลร้อนระอุจนแทบจะลุกเป็นไฟ ทำเอาแฟนกีฬาไทยออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านโซเซียลว่า ไม่อยากที่จะดูการแข่งขันครั้งนี้แล้ว ไม่อยากเห็นนักกีฬาไทยเสียใจจะจากถูกเอาเปรียบ มันทำให้คนเชียร์ก็ใจเสียอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังจะส่งแรงใจ แรงเชียร์ทัพนักกีฬาไทยเหมือนเดิม จนล่าสุดเจ้าภาพออกมาพลิกลิ้นบอกไม่ต้องจ่ายถึงขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะเจอลูกแทคติกของกัมพูชาในฐานะประเทศเจ้าภาพซีเกมส์ทุกรูปแบบ แต่เป้าหมายใหญ่ของนักกีฬาไทย คือ การประกาศศักดาเจ้าเหรียญทองเบอร์หนึ่งของซีเกมส์
จากข้อมูลของการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ระบุว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 877 คน และจากการประเมินคาดว่าไทยจะได้ 164 เหรียญทอง ซึ่งเป้าหมายนี้จะทำให้ไทยครองเจ้าเหรียญทอง ขณะที่กัมพูชาคาดว่าจะได้อันดับ 2 ที่ 160 เหรียญทอง ส่วนเวียดนามแชมป์เก่าอันดับ 3 ครอง 150 เหรียญทอง
ทั้งนี้ “นายประชุม บุญเทียม” รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เป้าหมายใหญ่ของทัพนักกีฬาไทยในศึกซีเกมส์ครั้งนี้ ที่ 164 เหรียญทอง ทางกกท.ได้มีการประเมินร่วมกับสมาคมกีฬาต่างๆ โดยจำนวนเหรียญทองที่คาดว่าจะได้เพิ่มขึ้นนั้น มาจากการพัฒนาของนักกีฬาที่ได้เหรียญเงินในซีเกมส์ครั้งก่อน สู่เหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ที่กัมพูชา
นอกจากนี้ รองผู้ว่าฯประชุม กล่าวย้ำว่า ที่ผ่านมา กกท.ได้ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาต่างๆ อย่างใกล้ชิด ในการเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาไทยในการสู้ศึกและ เพื่อก้าวสู่การแข่งขันในระดับกีฬาเอเชียนเกม และ โอลิมปิกเกมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ
แต่อย่างไรตาม สิ่งสำคัญที่ รองผู้ว่าฯประชุม ได้เน้นย้ำกับนักกีฬาทุกคนก็คือให้ระมัดระวังอาการบาดเจ็บระหว่างฝึกซ้อม
และนี่ก็คือความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาไทย กับเป้าหมายใหญ่ซีเกมส์กัมพูชา 164 เหรียญทอง ท่ามกลางดราม่าที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
