นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งปี 2566 ล่าสุด “นายกฯลุงตู่” ประกาศชัด ไทยกำลังจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งในเรื่องนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “นายธนกร วังบุญคงชนะ” ทำนายว่า การยุบสภาจะเกิดขึ้น หลังวันที่ 28 กุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ได้พูดคุยกับภาคเอกชน นักวิชาการ รวมถึงนักวิเคราะห์ ซึ่งฟันธงตรงกันว่า ในห้วงจังหวะก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เศรษฐกิจไทยจะดี และถือเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสมของรัฐบาลในการโหมประโคมข่าวดีด้านเศรษฐกิจ รวมถึงการออกมาตรการทางเศรษฐกิจช่วยเหลือประชาชน เพื่อสกัดข่าวลบที่จะส่งผลกระทบกับ “นายกฯลุงตู่” ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีภายใต้แบรนด์พรรคน้องใหม่ “รวมไทยสร้างชาติ”
ล่าสุด ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบการขยายเวลาลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท อีก 4 เดือน ถึง 20 พฤษภาคม 2566 โดยที่ภาครัฐจะสูญเสียรายได้ราว 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้ โฆษกรัฐบาล “นายอนุชา บูรพชัยศรี” บอกว่า จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
นักวิเคราะห์ มองว่า การออกมาตรการดังกล่าว ดีตรงที่คนเติมน้ำมันดีเซลไม่แพงขึ้น และหากราคาน้ำมันดีเซลขึ้น ก็ไม่กระทบกำลังซื้อ
ทั้งนี้ การออกมาตรการต่างๆของภาครัฐ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2566 ด้วยเช่นกัน โดย “นายดนุชา พิชยนันท์” เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2566 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์รอบโลกอย่างใกล้ชิด
และเมื่อถาม “นายดนุชา” ต่อว่า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ทางภาครัฐ เตรียมที่จะออกมาตรการเศรษฐกิจอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ คำตอบที่ได้ น่าสนใจ
นอกจากนี้ “นายดนุชา” กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากจะฝากไปยังภาคธุรกิจและประชาชนก็คือ จะต้องระมัดระวัง โดยจะต้องเตรียมบริหารความเสี่ยงเอาไว้ด้วย เพราะเศรษฐกิจไทย แม้จะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจโลกก็อาจที่จะชะลอตัวได้
ที่ล่าสุดได้แสดงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและนี่ก็เป็นภาพรวมเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับการเลือกตั้ง ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐอย่างชิด เพราะยิ่งใกล้เลือกตั้งมากขึ้นเท่าไร เราก็จะเห็นมาตรการทางเศรษฐกิจมากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews