DSI รับคดีทุนจีนสีเทาเป็นคดีพิเศษ
ภายหลังจากที่นายชูวิทย์ได้มีวัตถุประสงค์ขอให้รับคดีตู้ห่าวเป็นคดีพิเศษนั้น วันนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมาเปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ 14 ธันวาคม 2565 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับจัดให้คดีทุนจีนสีเทาเป็นคดีพิเศษ ตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 โดยผ่านการอนุมัติจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยไม่ต้องผ่านบอร์ดคณะกรรมการ
สำหรับการยึดอายัดทรัพย์สินเดิม จำนวน 3,020 ล้านบาทนั้น ล่าสุดสามารถอายัดทรัพย์สินได้เพิ่มเติม จำนวน 189 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินในกลุ่มของนางพัชรินทร์ อิทธิวัฒนา และพวกอีกสองกลุ่ม (สองกลุ่ม) ซึ่งมีทั้งที่ดิน บ้าน อาคารชุด รถยนต์ มอเตอร์ไซค์
เราก็ยกระดับของคดีเป็นคดีพิเศษ ในคดีพิเศษนี้เราทำเพิ่มจากฐานฟอกเงินและคดียาเสพติด เพิ่มในฐานนอมินีครับ เป็นนอมินีมีข้อสังเกตอันนึงที่อยากเรียนให้สื่อมวลชนได้รับทราบว่า ตู้ห่าวเป็นนายทุนแล้วก็มีเบื้องหลังของตู้ห่าวอีก ดีเอสไอ พาลีปราบย่ได้ดูว่ามันมีกลุ่มของคนอีกประมาณ 4 -5 กลุ่มที่อยู่ด้านหลังแล้วก็ถือพาสปอร์ตต่างประเทศครับ เป็นบุคคลที่เราคิดว่าเป็นทุนที่ส่งเข้ามา
ในขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ ดีเอสไอได้เลขพาสปอร์ตไว้แล้ว และกำลังสอบสวนในเชิงลึกว่าเป็นบุคคลชื่ออะไรและเมื่อเราพร้อมในโอกาสหน้าก็คงจะได้เปิดเผยตัวของกลุ่มทุนนั้นต่อไป
ด้านว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ได้กล่าวว่า ตามที่นายชูวิทย์มีความกังวลใจในเรื่องฐานฟอกเงิน จึงได้มายื่นเรื่องขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ ตนจึงได้เรียนท่านสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า เราต้องบูรณาการทุกส่วนทั้ง ป.ป.ส. คณะพาลีปราบยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ซึ่งเราก็ดูช่องว่างว่าต้องสืบสวนไปให้ถึงตัวบงการ ซึ่งก็คือ นอมินี ทำให้เรื่องนี้เข้าสู่การเป็นคดีพิเศษ และเราจะทำภาพใหญ่ให้เห็นว่านอกจากยึดทรัพย์สินบุคคลแล้ว ยังมีในส่วนของนิติบุคคล และจะมีการสอบปากคำพยานสำคัญ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลที่ได้มา อาจเสนอไปยังอัยการสูงสุดในส่วนของอาชญากรรมข้ามชาติได้เพราะมีนายทุนต่างชาติเกี่ยวข้อง
นายชูวิทย์ ได้กล่าวขอบคุณนายสมศักดิ์และทีมงานทุกท่าน ตนต่อสู้มาเพื่อดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมของสังคมนี้ และการที่ตนได้พบทีมงานของกระทรวงยุติธรรม ทำให้ตนดีใจ ตนเป็นคนธรรมดา ไม่ได้รู้จักนายตู้ห่าว แม้จะมีการโยงว่ามีคนอยู่เบื้องหลังตนก็ตาม เลยคิดว่าเป็นคนดีในสังคมมันลำบาก แต่เป็นคนชั่วในสังคมกลับเปิดเผยได้มากกว่า
ผมคิดว่าการเป็นคนดีในสังคมนี้ต้องอดทน และเราต้องแสดงให้กับคนต่างๆได้เห็นว่าการเป็นคนดี หรือการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมนั้นมันก็ไม่ได้ง่ายแต่อย่าหมดกำลังใจ อีกทั้ง นายชูวิทย์ได้นำกระเช้าดอกไม้มาแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจหน่วยงานกระทรวงยุติธรรมทุกท่านที่มีอุดมการณ์ทำเพื่อบ้านเมือง อีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





