fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ชูวิทย์-สันธนะ” ศึกนักแฉ(ไม่เต็ม)คาราเบล

ถือเป็นมวยถูกคู่ สำหรับเฮียชู ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ จอมแฉ รุ่นเก๋า ออกมาฉะปะเดือดกับ “รองต่อ” สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ผู้กว้างขวางในแวดวงมาเฟีย นักเลง และอิทธิพลทุกรูปแบบ ในประเด็นร้อนฉ่า กลุ่มทุนจีนทำธุรกิจสีเทา ที่ทำให้วงการสีกากีอยู่ไม่สุข ต้องออกมาระดมกวางล้างกันเอิกเกริก อีกทั้งยังลามไปถึงวงการการเมืองที่อดีตรัฐมนตรีรายหนึ่งต้องออกมาอัดคลิปชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

 

สำหรับคน คู่นี้ ถือว่า เต็มถัง สุดเหวี่ยง ประสบการณ์โชกโชนด้วยกันทั้งคู่ ด้าน ชูวิทย์ในวัย 61 ปี เป็นอดีตนักการเมืองชาวไทย อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย อดีตสมาชิกพรรคสู้เพื่อไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย และยังเคยเป็นพิธีกรโทรทัศน์รายการ ในปี 2560 รายการ ข่าวเย็นไทยรัฐ ช่วง ชูวิทย์ ตีแสกหน้าและในปี 2565 รายการ ชูวิทย์สะกิดติ่ง และทุกวันนี้ก็เขียนเรื่องราวมันส์ๆลงเฟสบุ๊คส่วนตัวเป็นประจำ

 

“ชูวิทย์” เคยเป็นราชาเจ้าพ่ออ่าง เจ้าของอาบอบนวด 6แห่ง ต่อมาถูกกดดันจากสีกากีจนต้องทยอยขายหุ้นในอาบอบนวดทั้งหมด และมาโด่งดังในช่วงปี พ.ศ.2546 เมื่อเขาได้หายตัวไปขณะที่มีคดีรื้อบาร์เบียร์ที่ถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นคดีที่มีคู่ความเป็นตำรวจนครบาล ต่อมาเขาได้ปรากฎตัวข้างถนน มีสภาพอิดโรย หลังจากนั้นเขาออกมาแฉว่า ถูกตำรวจกลุ่มหนึ่งอุ้มตัวไป จากนั้นเขาได้กลายเป็นจอมแฉที่มักจะขุดล้วงลึกในวงการธุรกิจสีเทาหลากหลาย

 

และด้วยความโลดโผนในการดำเนินชีวิตทำให้ “ชูวิทย์” ต้องเพลี่ยงพล้ำเขาไปสูดอากาศในเรือนจำหลายครั้ง โดยสูญสิ้นอิสรภาพครั้งแรก ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีรื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิทปี 2546 ต่อมา ปี 2561 คดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ สั่งจำคุก “ชูวิทย์ ” ฐานจงใจไม่แสดงรายการบัญชีทรัพย์สิน 2 เดือน ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี รับสารภาพลดโทษ เหลือจำคุก 1 เดือน ไม่รอลงอาญา

 

 

ส่วนคู่กรณี ตัวตึงวงการนักเลงอย่าง”รองต่อ”สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล วันนี้อายุ63 ปี เป็นน้องชายพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีต เลขาธิการปปง.” จบเตรียมทหาร รุ่นที่ 17 เรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 33 รับราชการมาได้สักระยะ ก็โดดเข้าสู่สนามการเมืองในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชากรไทย ลงสมัคร “สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร” แต่สอบตก และในปี 2550 ได้ลงสมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 ในนามพรรคประชากรไทย แต่ก็ต้องสอบตกอีกครั้งหนึ่ง

 

จากนั้นสันธนะได้ทำธุรกิจหลายอย่างทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้คนหลากหลายวงการ และโดดเด่นในเรื่องการนำข้อมูลทางลับออกมาแฉมากมาย อีกทั้งยังเคยชนกับบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล สมัยที่ยังเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และยังเคยบวกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากปมบุกตรวจค้น”ตลาดใหม่ดอนเมือง” กรณี”เมจิกสกิน” พร้อมกับเปิดหน้าเป็นลูกพี่ “เสี่ยโป้ อานนท์” คนดังโลกโชเชี่ยลมาแล้วด้วย

 

จนล่าสุด ออกมาเหวี่ยงสุดกับเฮียชู ชูวิทย์ จนเกือบจะได้ฟาดปากกัน ซึ่งจะว่าไปแล้ว ทั้ง 2 คน มีความเหมือนกันในหลายบริบท ด้วยการเป็นคนที่รู้ลึกรู้จริงในวงการสีเทาเหมือนกัน เป็นคนเสียงดังโผงผาง ดุดันเหมือนกัน เป็นจอมแฉ ตีแผ่ข้อมูลลึกๆลับๆที่ชาวบ้านไม่รู้เหมือนกัน และทั้ง”ชูวิทย์-สันธนะ”เวลาออกหน้าสื่อ มันจะโชว์ลีลา ออกแอ็คชั่นแบบเกินเบอร์ไปเยอะ จนบางทีถูกมองว่าเพี้ยน หรือไม่ อย่างไร ถ้าภาษาโชเชี่ยลสมัยนี้ต้องบอกว่าเต็มคาราเบลเลยจริงๆ

 

งานนี้ ศึก”ชูวิทย์-สันธนะ” 2 ตัวตึงวงการนักแฉเมืองไทย ที่หลายฝ่ายจับตาว่าจะจบสงบลงแบบไหน สะบั่นแตกหัก หรือแค่ดราม่าเรียกแต้มโชเชี่ยลเท่านั้น!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube