นี่เป็นสำนวนการสอบสวนจำนวน 7 ลัง 47 แฟ้ม เอกสารรวมกว่า 15,000 แผ่น ในคดีหลอกให้ร่วมลงทุนเฟรนชายส์ ร้านอาหารญี่ปุ่นดารุมะ ซูชิ ซึ่งพนักงานสอบสวนกำกับการสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.ได้ทยอยนำลงจากรถมาส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาสำนวนก่อนสั่งฟ้องคดี
หลังพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง บริษัท ดารุมะ ซูชิ จำกัด และนายเมธา ชลิงสุข อายุ 39 ปี ผู้บริหารบริษัทฯ รวม 4 ข้อหา คือ ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดของสินค้าหรือบริการ หรือใช้ข้อความอันเป็นเท็จฯ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ, ร่วมกันทุจริตโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฟอกเงิน
ทางด้าน นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า หลังจากได้รับสำนวนการสอบสวนแล้ว ก็จะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา เนื่องจากคดีนี้ถือว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เนื่องจากมีการโอนเงินการกระทำความผิดไปยังต่างประเทศ แม้ว่าธุรกิจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยก็ตาม
ขณะที่ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า คดีนอกราชอาณาจักร อำนาจการสอบสวนอยู่ที่อัยการสูงสุดเพียงผู้เดียว ก่อนที่จะมอบหมายให้อัยการคดีพิเศษรับผิดชอบ จากการตรวจสอบสำนวนเบื้องต้น พบว่าคดีนี้มีผู้เสียหาย 999 คน ความเสียหายกว่า 42 ล้านบาท ส่วนคูปองที่ยังไม่ได้นำไปใช้มีอีกกว่า 1 แสน 2 หมื่นใบ มูลค่ารวมกว่า 28 ล้านบาท
สำหรับนายเมธา ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้และยังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลอาญาฝากขัง จะครบผัดสุดท้ายในวันที่ 14 กันยายน นี้ ทางอัยการก็เชื่อว่าจะสามารถพิจารณาสำนวนสั่งฟ้องคดีได้ทันตามกำหนดฝากขัง
ด้าน พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 1 ปคบ. เปิดเผยว่า คดีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งเป็นคณะกรรมการดำเนินคดี พร้อมเชื่อว่ามีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ แต่หากอัยการมีคำชี้แนะ หรือให้สอบสวนเพิ่มเติมก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ทันตามกำหนดครับฝากขัง
สำหรับ คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดินมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อร้านอาหารดังกล่าวที่เปิดเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ 27 สาขา และปิดตัวกระทันหันโดยทางร้านอ้างว่าระบบส่วนกลางล่ม และยังไม่สามารถกู้คืนได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ที่ร่วมลงทุนเปิดแต่ละสาขาจำนงนมาก
นอกจากนั้นทางร้านยังจัดโปรโมชั่นขายบัตรอาหารรับประทานปลาเซลม่อนแบบบุฟเฟ่ต์ ใบละ 199 บาท โดยต้องซื้อเกินว่า 5 ใบ ทำให้มีผู้ที่ซื้อไว้ก่นอาหารและผู้ที่ซื้อไปขายเกร็งกำไร ส่วนบริษัท ซัพพลายเออร์ที่ส่งสินค้าให้กับทางร้าน ก็บอกว่าติดหนี้ค่าสินค้าอยู่ประมาณ 30 ล้านบาท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
