fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ชัยวัฒน์” ปัดอุ้มฆ่าบิลลี่-DSI ส่งฟ้อง 5 ก.ย.

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมกับพวกรวม 4 คน เดินทางเข้าพบ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่น โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต หลังจากการตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2557

 

 

 

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนี้ถือว่าครบถ้วน เพราะก่อนหน้านี้ที่แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าอำพรางนั้น ในฐานะที่ตนทำงานราชการสืบสวนสอบสวน หากไม่แจ้งข้อหาใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่นตาม ป.อาญา ม.309 ก็ถือว่าขาด จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องแจ้งเพิ่ม ก็ไม่รู้สึกหนักใจ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณอธิบดีและรองอธิบดีดีเอสไอที่มาต้อนรับตนด้วยตัวเอง ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

 

ด้านนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้เรียก นายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309 ข้อหา “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง” ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่หนักใจเพราะทำตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา โดยวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะนัดส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการสั่งฟ้องศาลและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน

 

สำหรับ คดีนี้ดีเอสไอ ออกหมายจับนายชัยวัฒน์ กับพวกรวม 4 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆ รวม 8 ข้อหาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ต่อมาเดือนมกราคม 2563 อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 สั่งไม่ฟ้องในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และข้อหาอื่นๆ เหลือเพียงข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ ดีเอสไอจึงมีความเห็นแย้งอัยการ เมื่อปี 2563 จนในที่สุดอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ พร้อมพวกรวม 4 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และข้อหาอื่นๆ รวม 4 ข้อหา และไม่สั่งฟ้องใน 4 ข้อหา ที่เป็นข้อหาเกี่ยวกับทรัพย์สิน

 

สำหรับข้อหาที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ และพวก มี 4 ข้อหาคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว่ก่อนฯ ร่วมกันมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่วมกันกักขังหน่วงเหนียวผู้อื่น และร่วมกันทุจริตหรืออำพรางศพ และหากรวมกับข้อหา ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่เคยสั่งฟ้องไว้เมื่อปี 2563 ผู้ต้องหาจะถูกสั่งฟ้องรวม 5 ข้อหานี้ ส่วนข้อหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง จะเป็นข้อหาที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ที่ดีเอสไอ เคยแจ้งไว้ 4 ข้อหา เช่น ร่วมกันเบียดบังทรัพย์สินเป็นของตนเอง ร่วมกันปล้นทรัพย์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube