fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

โฉมใหม่สาย 8 รถเมล์ไฟฟ้า

รถเมล์สาย 8 กำลังจะเปลี่ยนไป กระทรวงคมนาคมและบริษัท ไทย สมายล์ บัส พลิกโฉมสายประวัติศาสตร์การเดินรถด้วยรถโดยสายพลังงานไฟฟ้าฝีมือคนไทย เน้นการบริการและความปลอดภัย เริ่มให้บริการ 20 สิงหาคมนี้

 

 

ภาพการให้บริการ รถเมล์สาย 8 ในอดีตกำลังจะเปลี่ยน ทั้งคุณภาพรถ ความไม่สุภาพของพนักงาน และการบริการที่เรียกได้ว่า หลายคนที่ใช้บริการต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรปรับปรุง  วันนี้ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ให้บริการ รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ได้เปลี่ยนรถเมล์สาย 8 ใหม่ ด้วยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 (2-38) ใน คอนเซ็บต์ “We Come To Change Fast 8 To Feel Good เรามาเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกให้ดีขึ้น”

 

ซึ่งการปรับเปลี่ยนรถเมล์ให้บริการครั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่า นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบรถโดยสารสาธารณะครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของไทย ที่กำลังจะร่วมกันก้าวข้ามผ่านการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็น “รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า” ที่ผลิตโดยคนไทย บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

 

สำหรับการให้บริการของรถเมล์ไฟฟ้าสาย 8 ในครั้งนี้กระทรวงคมนาคมจะติดตามผลการประเมินการใช้บริการภายในระยะเวลา 2 เดือนจากประชาชนผู้ใช้บริการเพื่อนำไปพัฒนาในเส้นทางอื่นต่อไปถือว่าเป็นการคิกออฟ สำหรับการปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารทั้งหมด 237 เส้นทาง ซึ่งหลังจากนี้เชื่อว่าประชาชนคนไทยจะได้ใช้รถเมล์ที่มีคุณภาพและการบริการที่ได้มาตรฐานจากภาพเดิมของการใช้รถเมล์สาย 8 ที่เป็นรถมีร้อน

 

ด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัดกล่าวว่า ด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เปิดเผยว่า ในเฟสแรกบริษัทฯ มีรถเมล์พลังงานไฟฟ้าจำนวน 153 คัน ซึ่งจะทยอยนำมาวิ่งให้บริการล็อตแรก 40 คัน เริ่มวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.65) และจะนำออกมาวิ่งครบทั้งหมดภายในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมติดตั้งตู้ชาร์ตแบบฟาสต์ชาร์ต กำลังไฟ 310 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์ตหนึ่งครั้ง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที วิ่งได้ 4 รอบ 280 กม.ต่อวัน

 

ซึ่งมีกระจายตามอู่ต่างๆ ทั้ง 8 อู่ อู่ละ 20 หัวชาร์ต ครอบคลุม 71 เส้นทางที่บริษัทฯได้รับสัมปทาน มีแผนเปิดให้บริการ ภายในปี 2565 นอกจากนี้ รถทุกคันได้ติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารแบบ E-Ticket ซึ่งจะเริ่มใช้ 100% ได้ในเดือนกันยายน ควบคู่กับการใช้เงินสด โดยเป็นการเติมเงินไม่จำกัดขั้นต่ำ ผ่านระบบที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อเตรียมพร้อมเชื่อมต่อการเดินทาง แบบระบบเครือข่าย “รถ-เรือ-ราง” ครบวงจร ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพนักงานขับรถ

 

ซึ่งเรียกว่ากับตันเมล์ และพนักงานต้อนรับบนรถโดยสาร ที่เรียกว่าบัสโฮสเตสให้มีความรู้ ความชำนาญในเส้นทาง และมีจิตวิญญาณของการให้บริการ คำนึงถึงความปลอดภัย ด้วยสโลแกน“เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ” โดยเก็บค่าโดยสารตามเดิม คือ 15 , 20 และ 25 บาท นอกจากนี้ได้รับพนักงานจากสาย 8 เดิม มา ทำงานด้วยราว 15% ที่ผ่านการอบรม เพราะบางส่วนยังทำงานกับรถเมล์ร้อนที่ยังให้บริการอยู่

 

ด้วยในปัจจุบันโลกกำลังร้อนขึ้น จากการเดินทางด้วยรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และฝุ่นควันมากมาย อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิด PM2.5 บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด จึงได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า หรือ EV Bus มาใช้ทดแทนรถโดยสารแบบเดิมที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ควบคู่กับการพัฒนาการบริการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube