ญาติและครอบครัวของนายภัทรชัย อรรถพร อายุ 68 ปี ผู้เสียชีวิตบนรถยนต์ จากอุบัติเหตุบนถนนมอเตอร์เวย์ พัทยา จว.ชลบุรี แต่ถูกทิ้งศพไว้ในรถนาน12ชั่วโมง ติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาภูมิลำเนา ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง โดยบรรยากาศเป็นไปออย่างโศกเศร้า
ลูกสาว เปิดเผยว่าคอบครัวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าบิดาของตัวเสียชีวิตภายในรถยนต์หลังจากถูกเคลื่อนย้ายมาไว้ที่เก็บของกลาง ตำรวจทางหลวง หลังจากเกิดเหตุนานกว่า 12 ชั่วโมง ขณะนั้นไม่ได้ติดใจ เนื่องจากตำรวจให้ดูกล้องวงจรปิด และแจ้งว่าในขณะเกิดเหตุไม่มีคู่กรณี เป็นการขับรถยนต์เกิดอุบัติเหตุด้วยตนเอง แต่หลังจากทราบว่ามีกู้ภัยไปตรวจสอบที่เกิดเหตุนานกว่า 15 นาที แต่ไม่พบศพ
จึงสงสัยว่าบิดาของตนเองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หรือเสียชีวิตขณะที่รถยนต์ถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สถานีตำรวจโดยไม่มีการตรวจสอบที่แน่ก่อน และแม้จะเห็นผลการชันสูตรศพแล้วแต่ก็เชื่อว่าบิดาอาจไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทันทีและอาจจะมีชีวิตอยู่หากได้รับการช่วยเหลือไม่ถูกทิ้งไว้ในรถ ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่ามีคนใดเกี่ยวข้องบ้าง
“เท่าที่เห็นใบชันสูตรเบื้องต้นเป็นไปตามที่คุณหมอชี้แจงไหม เรื่องการเสียชีวิตเนี่ย คือเขาก็ชี้แจงว่ามีการกระแทกอะไรแบบนี้ค่ะ ถ้าตามความคิดหนูๆคิดว่าพ่อยังไม่เสียชีวิต ณ เวลานั้น เหลือรอผลเรื่องเวลาการตายอะไรแบบนี้ ในใบชันสูตรการเสียชีวิตคิดว่าทำให้พ่อเราเสียชีวิตได้เลยไหม หมอตอบไม่ได้ๆยังตอบไม่ได้แต่ในความเชื่อของเราเราเชื่อว่า ณ เวลานั้น คุณพ่อจะยังไม่เสียชีวิตทันทีใช่ไหมคะ ”
ด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเคลือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาที่นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พร้อมพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิต ก่อนเผยว่าวันนี้จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อเอาผิดกับตำรวจทางหลวง และกู้ภัยที่เอาช่วยเหลือ ในข้อประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนในข้อหาอื่น ๆ ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ทนายรณรงค์ ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาจจะมีเจตนาปกปิดความผิดบางอย่าง เนื่องจากให้ญาติดูแต่กล้องววงจรปิดตอนประสบเหตุ แต่กลับไม่ยอมให้ดูกล้องวงจรปิดตอนที่มีการเคลื่อนย้ายรถโดยให้เหตุผลว่าให้ดูไม่ได้
” คือกรณีที่เมื่อวานนี้มันมีประเด็นกันว่าตำรวจทางหลวงลืมร่างของคุณพ่อเขาไว้/วันนี้เเดี่ยวจะพาไปแจ้งความที่กองปราบข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291ถ้าคุณคิดว่าเขายังไม่ตายคุณหาหลักฐานมาพิสูจน์ และไม่ให้ท้องที่ทำด้วยเพราะท้องที่เป็นคู่กรณีขัดแข้งเพราะงั้นที่จะดำเนินคดีคือตำรวจที่เกี่ยวข้อง กู้ภัยที่เกี่ยวข้องที่ยกรถพ่อเขาไป ถ้าเกิดเขายังไม่ตายขึ้นมาใครรับผิดชอบบ้างไม่ใช่เงียบกันหมดแบบนี้ ”
สำหรับผลชันสูตรศพเบื้องต้นแพทย์ ระบุว่ามีภาวะเลือดคั่งในช่องเยื้อหุ้มหัวใจเนื่องจากขั้วหัวใจฉีกขาด ปริแตกและกระดูกซี่โครงหัก ซึ่งต้องรอผลอย่างเป็นทางการอีกครั้งใน 45 วัน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกองบังคับการตำรวจทางหลวงได้ชี้แจงยืนยันว่าไม่พบผู้บาดเจ็บ ญาติ หรือผู้เสียชีวิต เชื่อว่ามีพลเมืองดีนำผู้ผู้บาดเจ็บหรือผู้ขับขี่ส่งโรงพยาบาลแต่ไม่พบจึงได้ไปตรวจสอบภายในรถ พบว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่บริเวณใต้พวงมาลัยรถ พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยละเอียดเพื่อป้องกันและแก้ไขมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
