ปรากฏการณ์ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา เบอร์ 3 ของพญาอินทรีย์ ออนทัวร์เดินทางเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการในช่วงนี้
โดยไฮไลท์อยู่ที่การเยือนไต้หวัน ที่ทำให้พญามังกร ปรี๊ดแตก เพราะมองว่าไต้หวันเป็นเขตการปกครองของตนเอง กรณีแบบนี้เป็นการหยามหน้าชัดเจน เพราะ สีจิ้นผิงเคยเตือนกรณีไต้หวันในระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับไบเดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐฯ ‘อย่าคิดเล่นกับไฟ’
แต่คำเตือนจากผู้นำสูงสุดของจีนเป็นแค่ลมปากที่ สหรัฐ ไม่ยี่หระ และประกาศพร้อมปกป้องไต้หวันอย่างเต็มที่ และการออกทริปของ แนนซี เพโลซี ยังเกิดขึ้นก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเวลาไม่นาน นั้นยิ่งทำให้เพิ่มความกดดันให้กับ สีจิ้นผิง ต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ ที่เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว เพราะสีจิ้นผิงกำลังจะไปครองอำนาจในฐานะผู้นำประเทศต่อเป็นสมัยที่ 3 จึงต้องแสดงศักยภาพให้ชาวจีนทั่วโลกได้ประจักษ์
ดาบแรกจีนใช้มาตรการทางเศรษฐกิจสั่งแบนห้ามนำเข้าสินเข้าจาก ไต้หวัน จำนวนมากกว่า 2,000 ชนิด จากทั้งหมด 3,200 ชนิด เพื่อตอบโต้ โดยเป็นการแบนสินค้าจำนวนมากมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งก่อนหน้านี้ จีนเคยลงโทษไต้หวัน สั่งห้ามนำเข้าสับปะรด แอปเปิ้ล และน้อยหน่าจากไต้หวันในปี 2011 จนไต้หวันต้องทำแคมเปญสับปะรดเพื่อประชาธิปไตยและเสรีภาพขึ้นมาต่อสู้
ต่อมาดาบสอง จีนซ้อมรบใหญ่ด้วยกระสุนจริงบนน่านน้ำรอบไต้หวัน โดยรัฐบาลจีนระบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะมีการยิง “กระสุนจริงระยะไกล” บริเวณ 6 จุดรอบเกาะไต้หวัน เป็นเวลา 4 วัน และจุดซ้อมรบที่ใกล้เกาะไต้หวันที่สุด อยู่ห่างจากชายฝั่งไต้หวันเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะที่ กระทรวงกลาโหมไต้หวันเตือนว่า “พื้นที่ซ้อมรบของจีนในครั้งนี้ ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของไต้หวัน” และ “เป็นการกระทำที่ท้าทายระเบียบสากล”
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 7 หรือกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเตือนจีนว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะบั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาค แถลงการณ์ระบุว่า “ไม่มีความชอบธรรมที่จีนจะใช้การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี เป็นเหตุผลในการดำเนินกิจกรรมทางทหารเชิงคุกคามในช่องแคบไต้หวัน
ในอีกด้านหนึ่ง ในมุมมองของ1ประเทศมหาอำนาจอย่าง รัสเซีย โดย นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงการปรากฏตัวในไต้หวันของเปโลซี ว่าเป็น “ความพยายามโดยเจตนา” ของสหรัฐในการ “สร้างความขุ่นเคืองรำคาญใจ” ให้แก่จีน และยืนยันว่า รัฐบาลมอสโกอยู่เคียงข้างจีน ยึดมั่นและสนับสนุนหลักการจีนเดียว ที่หมายถึงการยอมรับว่า รัฐบาลในกรุงปักกิ่ง “คือรัฐบาลจีนที่ชอบธรรมเพียงแห่งเดียว”
ส่วนความเคลื่อนไหวของประเทศไทย โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว และไทยไม่ประสงค์ที่จะเห็นการดำเนินการใด ๆ ที่จะเพิ่มความตึงเครียดและบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งเป็นการประกาศ” ไทยยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว” หลังจากที่คนดังหลายราย อย่างเช่น แจ็กสัน หวัง ดาราชาวฮ่องกง หนึ่งในไอดอล K-Pop เชื้อสายจีนที่แสดงจุดยืน “จีนเดียว” จนทำให้ ถูกแขวะว่าเป็นสลิ่มจีน ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตานโยบาย”จีนเดียว”..เสียวทั้งโลก! เพราะทำให้เกิดความปั่นปวนไปทั่วภูมิภาค และทั่วโลก ที่หวั่นวิตกจะเกิดสงครามระหว่างมังกรกับอินทรีย์ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงหญ้าแพรกอย่างประเทศอื่นๆ รวมถึงสยามประเทศของเราคงต้องรับผลกระทบไปด้วยอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
