เหลืออีกเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาล 2022-2023 ก็จะเริ่มฟาดแข้งซีซั่นใหม่กันแล้ว โดยในฤดูกาลนี้ฟุตบอลลีกยุโรปจะเริ่มออกสตาร์ทซีซั่นใหม่เร็วขึ้นเนื่องจากช่วงปลายปีมีโปรแกรมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาคั่นระหว่างซีซั่น และก็เหมือนเช่นเคยก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้นหนึ่งสัปดาห์ ตามธรรมเนียมของอังกฤษจะมีเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงโล่การกุศล ” ดิ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2022″ ลงเตะกันก่อนเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้รู้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกำลังจะเปิดฤดูกาลใหม่ในสัปดาห์ถัดไป
ซึ่งจะเป็นการนำเอาแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นที่แล้วอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเจอกับแชมป์เอฟเอ คัพฤดูกาลที่แล้วก็คือ ลิเวอร์พูล กำหนดฟาดแข้งกัน ในวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2565 เวลา 23.00 น.ตรงตามเวลาประเทศไทย และในปีนี้จะย้ายสังเวียนจาก เวมบลีย์ ไปเตะกันที่สนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แทน เนื่องจากสนามเวมบลีย์จะถูกใช้ในเกมฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2022” นัดชิงชนะเลิศที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม
ผลงาน 5 เกมหลังที่ทั้งคู่พบกัน แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1 เสมอ 3 ลิเวอร์พูล ชนะ 1
ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา อุ่นเครื่องด้วยชัยชนะทั้ง 2 เกม ปีนี้ได้ปล่อยตัว อย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ กาเบรียล เฆซุส ออกไปจากทีม เเต่ยังได้คว้าตัวกองหน้าดาวรุ่ง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ มาทำเกมรุกที่น่ากลัวขึ้น อีกทั้งยังได้นักเตะแดนกลางอย่าง คัลวิน ฟิลลิปส์ มาเสริมความดุดัน นับว่าเสริมขุมกำลังที่ลงตัวเเละคุณนภาพอย่างมาก พร้อมล่าทุกถ้วยที่ลงแข่งเหมือนเดิม
เรือใบสีฟ้า สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ทุกขุมกำลังไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บรบกวนแต่อย่างใด คาดว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเลือกใช้ เอแดร์ซอน ลงเฝ้าเสา ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริค ลาป๊อกร์ต, เจา กานเซโล่ ลงคุมแผงเกมรับ ส่วน โรดรี, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด ซิลวา จะลงประสานงานคอยปั้นเกมตรงกลางร่วมกัน ขณะที่ ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเดน, เออลิ่ง ฮาแลนด์ จะเป็น 3 ประสานเเดนหน้าผลิตสกอร์ในเกมนี้
ลิเวอร์พูล ช่วงปรีซีซั่นเดินทางไปลงเตะเกมอุ่นเครื่องมาแล้วทั้งหมด 4 เกม ชนะ 2 แพ้ 2 ปีนี้เสีย ซาดิโอ มาเน่ ไปอยู่กับ เสือใต้ ในเยอรมัน แต่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เฉพาะยังมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เเละยังมีนักเตะใหม่เข้ามาเสริมแกร่งทีมทั้ง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ดาร์วิน นูนเญซ เเละก็เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้เเล้ว ส่วนผู้เล่นตัวหลักชุดเดิมยังอยู่กันครบ พร้อมล่าทุกถ้วยที่ลงแข่งเช่นกัน
หงส์แดง เกมนี้คาดว่าจะหมดสิทธิ์ใช้งาน อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เชมเบอร์เลน และ ดิโอโก้ โชต้า ที่มีปัญหาเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า นอกจากนี้จะยังไม่มี อลิสซอน เบคเกอร์ เนื่องจากมีอาการเจ็บบริเวณช่วงท้องคาดว่า ทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ จะส่ง อาเดรียน นายด่านตัวเก๋าลงเฝ้าเสาเเทนที่ ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะปักหลักคุมแนวรับ ด้าน ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะค่อยคุมจังหวะแดนกลางพร้อมคอยปั้นเกมสนับสนุนทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ ที่จะเป็น 3ประสานเเดนหน้าล่าตาข่ายเกมนี้
หากมองทรรศนะ คู่นี้จะเป็นการวัดกึ๋นของ 2 สุดยอดกุนซืออย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าพ่อแท็กติกทั้งคู่แล้ว ยังเป็นการดวลกันของ 2 หัวหอกตัวใหม่ถอดด้ามของทั้ง 2 ทีมอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ ดาร์วิน นูนเญซ อีกด้วย แต่สถิติ 5 เกมหลังสุดผลัดกันแพ้ชนะคนละนัด และเสมอกันไปอีก 3 นัด หากเปรียบเทียบศักยภาพของนักเตะและฟอร์มของทีมในเวลานี้ พร้อมดูจากการอุ่นเครื่องที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่าหงส์แดงยังคงดูเป็นรองดูยังไม่ลงตัวเท่าที่ควร ด้าน เรือใบสีฟ้า เกมรุกถือเป็นจุดขายเพราะยิงได้ทุกเกมค่าเฉลี่ยต่อเกมตกนัดละสองลูกกว่าถือว่าดูดีกว่า ฉะนั้นเเล้วเกมนี้จึงมองว่า ทีมของ เป๊ป กวาดิโอร่า มีโอกาสสูงกว่าที่จะได้ชูถ้วยฟุตบอลโล่การกุศล ” ดิ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2022″ ในปีนี้ไปนอนกอด ก่อนที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะเปิดฉากในวันที่ 5 สิงหาคม 2565 นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
