fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เปิดแผนแก๊งอุ้มนักธุรกิจจีนเรียกค่าไถ่ 10 ล้าน

นี่เป็นภาพวงจรปิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา บริเวณลานจอดรถของแมนชันแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 9 ซอย 13 ปรากฎภาพขณะกลุ่มผู้ต้องหา 3 คน ได้อุ้มตัวนักธุรกิจสัญชาติวานูอาตู อายุ 31 ปี ขณะที่กำลังขับรถยนต์มารับแฟนสาวชาวจีน ที่แมนชันโดยกลุ่มผู้ต้องหาได้เข้าล็อคตัวและนำขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์พาตัวผู้เสียหายออกไปจากลานจอดรถ ก่อนจะถูกกลุ่มผู้ต้องหาปล่อยตัวทิ้งไว้บริเวณซอยวัดลาดปลาดุก จ.นนทบุรี จากนั้นได้เรียกรถแท็กซี่ให้มาส่งย่านห้วยขวางเพื่อเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง

 

โดยตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปถึงจุดที่ผู้เสียหายถูกปล่อยตัวออกมา และจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่า ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สัญชาติวานูอาตู เชื้อสายจีน ถูกอุ้มตัวไปรีดค่าไถ่เป็นเงิน 10 ล้านบาท ระหว่างทางที่อยู่ในรถถูกบังคับให้โอนเงินไปให้แต่ไม่สามารถโอนให้ได้ เนื่องจากโทรศัพท์ตกอยู่ในที่เกิดเหตุในช่วงที่ถูกคุมตัวขึ้นรถ จึงถูกยึดนาฬิกาแบรนด์เนมของแท้ราคาประมาณ 20 ล้านบาท ก่อนถูกปล่อยตัวลงระหว่างทาง โดยผู้เสียหายให้ข้อมูล หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาเป็นชาวจีนที่เป็นลูกหนี้เก่า

 

จากนั้นตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิขณะเตรียมเดินทางหลบหนีกลับไปที่ประเทศจีน ประกอบด้วย Mr.HEJUN HUI อายุ 35 ปี , Mr.Jinyong Zheng อายุ 36 ปี และ Mr.Heng Yaofeng อายุ 37 ปี ก่อนนำตัวมาสอบปากคำผ่านล่ามภาษาจีนที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง

 

 

พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง เปิดเผยว่าหลังสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธอ้างว่าเป็นบุคคลที่ปรากฎในคลิปซึ่งมีทั้งขับรถและอยู่ที่ลานจอดรถกับผู้เสียหายจริง แต่เป็นการมาเอาทรัพย์สินจากผู้เสียหายคืน แต่ไม่ได้เป็นการมาอุ้มไปเรียกค่าไถ่หรือปล้นทรัพย์ตามที่ถูกกล่าวหา แต่จากการสืบสวนตำรวจพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการจองตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้าเพื่อเดินทางกลับหลังก่อเหตุและจากการสืบสวนยังพบว่า1ในผู้ต้องหาเดินทางจากประเทศจีนเข้ามาประเทศไทย เพื่อร่วมก่อเหตุโดยตรง

 

โดยมีการวางแผนร่วมกับคนจีนที่อยู่ในไทยอยู่ก่อนแล้ว โดยตำรวจมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่าทำกันเป็นขบวนการมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนซึ่งถือว่าเป็นความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี พร้อมขยายผลว่ากลุ่มผู้ต้องหาและผู้เสียหายซึ่งอ้างว่าเป็นลูกหนี้เก่ากันมาก่อนได้ร่วมกันทำธุรกิจอะไรที่ผิดกฎหมายในไทยหรือไม่ หากมีการกระทำผิดก็จะมีการพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติม

 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีฐาน ร่วมกันปล้นทรัพย์, ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและข่มขืนใจผู้อื่นฯรวม5ข้อหาและเตรียมนำตัวไปขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขังผัดแรกพรุ่งนี้พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube