ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงนี้เป็นเรื่องที่ร้อนแรงหลังทางสหรัฐเข้าสู่ช่วงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ทำให้ตลาดการเงินโลกผันผวนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมารวมไปถึงค่าเงินยูโรที่ปรับตัวลดลงในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งรวมไปถึงค่าเงินบาทของประเทศไทยเองที่ได้รับผลกระทบไปด้วยจากการดำเนินนโยบายการเงินของทางสหรัฐ
ทำให้ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่ได้มีการแทรกแซงค่าเงินบาท โดยปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยจะเน้นดูความผันผวนเป็นหลัก ถ้ามีความผันผวนมากกว่าปกติจึงจะเข้าไปดูแล และคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีแรงบวกกลับเข้ามาที่ทำให้บาทไม่อ่อนมากกว่านี้ หรือกลับมาแข็งขึ้น แต่บาทที่อ่อนค่าในขณะนี้ยังเป็นผลมาจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยการอ่อนค่าลงของเงินบาทในขณะนี้เกิดจากปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญ จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความผันผวนของค่าเงินทั่วโลก
ส่วนเงินทุนในตลาดล่าสุดยังไม่พบการไหลเข้า-ออกของเงินทุนต่างชาติทีผิดปกติ พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีมาตรการในการควบคุมเงินทุนไหลออก เพราะเชื่อว่าการปล่อยให้ตลาดเคลื่อนไหวเสรีเป็นกลไกที่ดี
ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าประเด็นค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาจากปัจจัยภายนอกประเทศหลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แม้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกมายืนยันว่าปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด แต่จากการตรวจสอบทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลงแปลว่ามีการเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท แต่ไม่ได้ฝืนทิศทางตลาด ซึ่งเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวคงไม่มีปัญหาและเป็นทิศทางที่เหมาะสม
เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องดูสมดุลย์ทั้งในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราเงินเฟ้อควบคู่กันไปเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย ส่วนเรื่องกระแสเงินทุนไหลออกนั้นสำหรับประเทศไทยไม่น่ากังวลเพราะยังมีพื้นฐานที่ดี และรัฐบาลไทยไม่ได้กู้เงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีตราสารหนี้เงินบาทที่รองรับการกู้เงินของรัฐบาล แต่ในระยะข้างหน้าต้องระมัดระวังการกู้เงินเนื่องจากรายได้ประชาชนไม่เพิ่มขึ้นจะมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีและรายได้ของรัฐในอนาคต
อย่างไรก็ตามมองว่าเศรษฐกิจโลก เริ่มเข้าสู่จุดเปราะบางซึ่งคาดว่าจะเห็นผลชัดเจนได้ในช่วงหนึ่งถึงสองเดือนนับจากนี้
ซึ่งจะเห็นได้ว่ามุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทยในการดูแลเสถียรภาพด้านการเงินทั้งอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราเงินเฟ้อ ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและคงต้องติดตามกันต่อไปว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้เต็มที่อีกเมื่อใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
