fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ศบค.ยังไม่ประกาศโรคประจำถิ่น-ยืดพรก. 2เดือน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.

 

โดยมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

 

พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)

 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานผลการติดตามการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก

 

ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 จากสายพันธุ์โอมิครอน BA.4 BA.5  ซึ่ง WHO แสดงความกังวลในเรื่องนี้ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพันธุกรรมโควิด-19 เพราะหลายประเทศ ผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรค

 

ซึ่งอาจจะทำให้การติดตามสถานการณ์สายพันธุ์ใหม่ยากยิ่งขึ้น และขอร้องให้ประเทศต่างๆ สร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชน เพื่อลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตหากติดเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

 

ส่วนการแพร่ระบาดในประเทศไทยก็มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะทำให้พบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย และรักษาตัวที่บ้านมากขึ้น

 

แต่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงรวมทั้งสุ่มตรวจ และติดตามการกลายพันธุ์โดยเฉพาะสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5

 

เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และกำหนดมาตรการต่าง ๆ ต่อไป และในช่วงนี้ที่มีการระบาดเพิ่มขึ้นในไทยขอให้ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมของเตียง แพทย์ ยา และเวชภัณฑ์ รวมทั้งการพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อ จำนวนผู้ได้รับวัคซีน ประสิทธิภาพของวัคซีนและภูมิคุ้มกันอาการความรุนแรงของโรค และการตอบสนองต่อยารักษา

 

รวมทั้งขอให้รายงานความคืบหน้าเรื่องการพัฒนาวัคซีนและยาให้ทราบเป็นระยะด้วย ส่วนการปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ต้องพิจารณาตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น

 

สำหรับมติที่ประชุม ศบค. ในวันนี้ เห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ไปอีก 2 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-30 กันยายน 2565 เป็นคราวที่ 19

 

โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ต้องการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินในเรื่องอื่น ๆ ทั้งสิ้น มีเหตุผลความจำเป็น เป็นการแก้ปัญหาเชิงบูรณาการ วัตถุประสงค์ เพื่อการรักษาชีวิตของประชาชนให้มากที่สุด ไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขออย่าบิดเบือนเป็นอย่างอื่น พร้อมฝากให้ดูแลบุคลากรทางสาธารณสุขให้ดี โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถิติการแพร่ระบาดสูง

 

ในปัจจุบัน และขอให้กรุงเทพมหานครดูแลการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้มีความปลอดภัย เน้นการรณรงค์ สื่อสาร สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งฝากให้กระทรวงศึกษาธิการ และโรงเรียนพิจารณาหามาตรการที่ปลอดภัย ในการทำกิจกรรมร่วมกันของนักเรียน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube