fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ทักษิณ” นักปั้น 3 นายกฯ กับหมากสุดท้าย “อุ๊งอิ๊ง”

ทุกย่างก้าวของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดเลิฟเฮียโทนี่ ทักษิณ ชินวัตร ถูกจัดวางด้วยมันสมองอันชาญฉลาด ของ ทักษิณ ที่เดินเกมต่อเนื่อง วางหมากอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จาก ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย สู่การสัญจรภูธร ประเดิมเวทีแรกที่อุดรธานี พร้อมกับการเปิดตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ปลุก 14 ล้านเสียงทวงความสำเร็จเดิมให้กลับมา

 

แน่นอนว่าเกจิการเมืองมองไกลไปว่า “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธารจะกลายเป็นนารีขี่ม้าขาวคนที่ 2 เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของค่ายเพื่อไทย และบรรลุเป้าหมายด้วยการขึ้นเป็นประมุขฝ่ายบริหารของประเทศคนที่ 30 ต่อจากนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” พร้อมกับเป้าประสงค์สุดท้ายคือการทำหน้าที่อภิชาตบุตร พาบิดาและน้าสาว กลับคืนสู่แผ่นดินเกิดให้ได้
ที่ผ่านมาทักษิณนั้นเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์เกมการศึกสงครามการเมืองในระดับซือแป๋เรียกอาจารย์ เพราะ ทักษิณ เป็นป๋าดันให้คนใกล้ชิดก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดนายกมาแล้วถึง 3 คน เริ่มจากในปี 2550 ช่วงที่พรรคพลังประชาชนขาดคนถือธงนำ ด้านทักษิณโทรศัพท์ต่อสายข้ามประเทศเพื่อให้นายสมัคร สุนทรเวช นักการเมืองจอมเก๋าเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 25 ของไทย

 

คนที่2 คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามี เจ๊แดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของทักษิณ ซึ่งเดิมนายสมชาย รับราชการเป็นถึง อดีตผู้พิพากษา อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 เป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน จากนั้นในปี พ.ศ. 2551 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี

 

 

และ 17 กันยายน 2551 ได้รับการเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย ชนะคู่แข่งอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีว แต่ทว่า ในขณะที่สมชายดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช โดยใช้สนามบินดอนเมืองเป็นที่ทำการแทน

 

ต่อมาคนที่ 3 ที่ ทักษิณ วางหมากเดินเกมให้คือ “ยิ่งลักษณ์ ” โดยใช้เวลาเพียง 49 วันในการลงพื้นที่หาเสียง ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 สู้ศึกเลือกตั้ง ต่อมา 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ด้วยการลงคะแนนเลือกตั้งจากประชาชน15ล้านเสียง ทำให้มี ส.ส.ในสภา 265 คน เกินกึ่งหนึ่งของสภา ทำให้ ‘ยิ่งลักษณ์ ‘ ในวัย 44 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28
ซึ่งในขณะนั้น ทักษิณ วางแนวนโยบายที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประชาชน โดยจัดเต็มทั้งเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เพิ่มเงินเดือนพื้นฐานผู้จบปริญญาตรีที่ 15,000 บาท, พักหนี้เกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยอย่างน้อย 3 ปี, เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ไปจนถึงนโยบายที่ขยายโอกาสให้ประชาชนในทุกระดับ เช่น กองทุนหมู่บ้าน, กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี, กองทุน SML ฯลฯ

 

และคนที่4 ที่ทักษิณ กำลังปลุกปั้น บรรจงเจียรนัยอย่างตั้งใจคือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร นั้นเอง ซึ่งเชื่อว่า ทักษิณต้องถอดบทเรียนจากประสบการณ์ ที่ผ่านมาของทั้งนายสมัคร นายสมชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่โดนฝ่ายตรงข้ามโจมตีอย่างหนักหน่วง และเชื่อว่าความพยายามที่จะดิสเครดิต “อุ๊งอิ๊ง” จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นในวันที่ประกาศท้าชิงนายกฯคนต่อไป ต้องจับตาว่า ทักษิณ จะแก้เกม เดินหมากและรุกฆาต ลุงวัย 68 ปี ด้วยกลยุทธ์ใด!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube