นับจากเลือกตั้งใหญ่ มีนาคม 2562 เป็นต้นมา ก็เหลือ เวลาอีกเพียง 1 ปีเศษ ก็จะได้เลือกตั้งกันใหม่อีกครั้ง หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองอะไรเกิดขึ้นเสียก่อน
และตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี มีเพียง “ภูมิใจไทย” เพียงพรรคเดียว ที่เติบโตขึ้น และเนื้อหอม เพราะมี ส.ส.ของพรรคต่างๆย้ายเข้ามาสังกัดเป็นจำนวนมากเพิ่มจาก 51 ตอนร่วมรัฐบาลเป็น 65 ในตอนนี้
โดยส่วนใหญ่มาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ และถูกขับออกจากพลังประชารัฐ พร้อมกับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” แต่ “อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรค ยืนยัน
มาโดยตลอดไม่ได้ไปช้อนซื้อ ไปช็อปปิ้ง มาแต่อย่างใด แต่เขามาเอง ตามเนื้อเพลงลูกทุ่งดัง “หนูเปล่านะ เขามาเอง” รวมถึงยังมีประเภทฝากเลี้ยงคอยยกมือให้ในสภา ทั้งที่ยังอยู่กับอีกพรรคด้วยเช่นกัน อีก 4-5 คน เป็นอย่างน้อย และจากการที่พรรคภูมิใจไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงกลายเป็นฐานกำลังสำคัญ ที่ค้ำยันรัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์”
หลังฐานสนับสนุนเดิม “พลังประชารัฐ”เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ แตกตัวไปหลายทิศทาง จึงน่าสนใจว่า พฤษภาคมนี้ ที่จะเปิดสมัยประชุม และฝ่ายค้านจองกฐิน ยื่นซักฟอกอีกครั้งภูมิใจไทย จะช่วยให้”บิ๊กตู่”อยู่รอดปลอดภัยได้อีกครั้งหรือไม่ หรือเกิดความเปลี่ยนแปลง ส่ง “เสี่ยหนู” ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดแทน
ด้วยความที่พรรคภูมิใจไทย มีจุดยืนทางการเมืองไม่สุดโต่งจนเกินไป และไม่เป็นศัตรูกับพรรคใด แบบชัดเจน ตลอดจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ พูดแล้วทำ
สามารถนำพาประเทศไทยพ้นจากวิกฤติได้ จึงทำให้มีอดีต ส.ส. แกนนำพรรคติดต่อเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง และระยะเวลาอีกประมาณเกือบ 1 ปีเต็มก่อนครบวาระ ซึ่งเป็นธรรมดาของพรรคการเมือง ที่จะต้องมีการเตรียมพร้อม “ภูมิใจไทย”ก็ขยับออกตัวแล้วเช่นกัน สำหรับการลงสนามเลือกตั้งใหม่ ด้วยการแบ่งโซน วางตัวแกนนำ รับผิดชอบแต่ละพื้นที่
โดยภาคกลาง และภาคตะวันออก “อนุทิน” เป็นแม่ทัพ ขณะอีสานตอนบน วาง”ทรงศักดิ์ ทองศรี” รองหัวหน้าพรรค กับ “ครูแก้ว” ศุภชัย โพธิ์สุ เป็นผู้รับผิดชอบ, โซนอีสานตอนล่าง”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เลขาธิการพรรค กับ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” 2 ขาใหญ่ บุรีรัมย์-โคราช” เป็นผู้ดูแล,ส่วนภาคเหนือ 2 พี่น้อง “ชาดา- มนัญญา ไทยเศรษฐ์” เป็นผู้นำ
ส่วนปักษ์ใต้ เป็นของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” โดยที่ กทม.ยังไม่วางตัวหลัก “อนุทิน” ดูแลไปก่อนรอคนเหมาะสม และมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ ส.ส.มากกว่าเดิม
โดยไม่สนใจว่ากติกาจะเป็นอย่างไร เพราะภูมิใจไทย ย้ำมาโดยลตลอด พร้อมสู้ทุกรูปแบบ ทั้งบัตร 1 ใบ หรือ 2 ใบก็ได้ จึงน่าสนใจเกมการเมืองหลังจากนี้ ที่ฝ่ายค้านจ้องใช้กลไกสภาล้มรัฐบาลให้ได้ก่อนครบวาระ กับพรรครัฐบาลที่มีรอยร้าว รอยขีดข่วนจำนวนมาก ทั้ง พลังประชารัฐกับ ประชาธิปัตย์ หรือพลังประชารัฐ กับภูมิใจไทยเพราะหากเล่นกันแรงเกินไป โอกาสที่เกมจะพลิกก็มีได้ตลอดเวลา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
