ทันทีองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงคำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ 4
ซึ่งมี “วัฒนา เมืองสุข” อดีตรัฐมนตรีพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวกรวม 7 คน ได้ยื่นอุทธรณ์ โดยพิพากษายืนจำคุก “วัฒนา” 99 ปี แต่ตามกฎหมายแล้วให้คงจำคุกสูงสุด ได้แค่ 50 ปี และยึดทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 89 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดของคดีบ้านเอื้ออาทรแล้ว หลังจากยืดเยื้อมายาวนานถึง 15 ปี โดยคดีนี้มีจุดเริ่มต้นมาจาก รัฐประหาร 2549 และ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ได้แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เพื่อตรวจสอบโครงการที่รัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” ดำเนินการ
และหนึ่งในนั้น คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร และต่อมา คตส. ได้ส่งสำนวนต่อให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการสอบสวนต่อกระทั่งปี 2560 ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิด “วัฒนา” พร้อมพวก อีก 14 คน ส่งให้อัยการสูงสุดยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่ง “วัฒนา” ได้ต่อสู้ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง กระทั่งวันที่ 24 กันยายน 2563 ศาลแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจำคุก ” วัฒนา” รวม 11 กระทง จำคุกกระทงละ 9 ปี แต่ด้วยกติกาใหม่ตามรัฐธรรมนูญ 2560 เปิดโอกาสให้จำเลย สามารถยื่นอุทธรณ์ได้เป็นครั้งแรก ทำให้ “วัฒนา” ยื่นอุทธรณ์ ต่อศาล
แต่ท้ายที่สุดองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ก็ยังคงวินิจฉัยยืนตามคำตัดสินเดิม ถึงถือเป็นการปิดฉากคดี “บ้านเอื้ออาทร” ที่ต้องยอมรับนับถือความใจสู้ และยืนหยัดตามกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เคยคิดหลบหนี เหมือนเจ้านายเก่า และนักการเมืองอีกหลายๆคน
“วัฒนา เมืองสุข” มีชื่อเล่นว่า “ไก่” เกิดที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรของนายย้อม และ นางนวรัตน์ เมืองสุข ในครอบครัวของชนชั้นกลางที่พ่อแม่ประกอบอาชีพค้าขายและเกษตรกร มีกิจการวิ่งรถโดยสารระหว่างจังหวัดนครนายกกับปราจีนบุรี สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (สาขากฎหมายเศรษฐกิจ) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สมรส กับ “พัชรา เจียรวนนท์” มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 3 คน เริ่มต้นทำงานเป็นทนายความ ประจำสำนักกฎหมายดิศญุตม์และวัฒนา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ก่อนที่ จะเข้าสู่วงการการเมือง และ ในปี พ.ศ. 2539 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.ปราจีนบุรี สมัยแรก ในสังกัดพรรคชาติพัฒนา และปี พ.ศ.2543 ย้ายสังกัดพรรคไทยรักไทย ได้รับตำแหน่งทางการเมืองเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนปี พ.ศ.2545รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์,พ.ศ. 2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, พ.ศ. 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, พ.ศ. 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนมีรัฐประหาร และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไป 5 ปี เมื่อพ้นกำหนดก็กลับมาช่วยงานพรรคเพื่อไทย และเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ต่อสู้กับการรัฐประหารยึดอำนาจของ คสช.ในปี พ.ศ.2557 ถูกควบคุมตัว ปรับทัศนคตินับครั้งไม่ถ้วน กระทั่งหลังเลือกตั้ง มีการเปลี่ยนแปลงในพรรคเพื่อไทยก็แยกออกไปร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์,โภคิน พลกุล ก่อนจะสิ้นสุดเส้นทางการเมืองไว้เพียงแค่นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
