fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

นายกฯไม่คุยสื่อ ศบค.ไม่เพิ่มมาตรการมีแต่ผ่อนคลายรองรับนทท.

นายกฯไม่คุยสื่อ ศบค.ไม่เพิ่มมาตรการมีแต่ผ่อนคลายรองรับนทท.

 

ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ของเชื้อโควิด-19 โดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนทั้งก่อนและหลังการประชุม เป็นวันที่ 2 แล้ว แม้จะพยายามสอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่มีการเสนอให้ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ฉบับ รวมไปถึงอาการป่วยของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เข้ามาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลและลาการประชุมครม.วานนี้

 

โดยในที่ประชุมศบค. ได้มีการหารือถึงการปรับยูเซ็ป หรือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐบาล เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ซึ่งจะปรับไม่ให้ครอบคลุมผู้ป่วยในระดับสีเขียว แต่หากเป็นผู้ป่วยที่วิกฤตในขั้นเหลืองและแดงก็ยังคงสามารถเข้ารักษาในโครงการได้ตามเดิม และนายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำให้มีการปรับปรุงระบบสายด่วน 1330 ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ยกเลิกผู้ติดเชื้อโควิด ออกจากการรักษาวิกฤตฉุกเฉิน หรือ ยูเซ็ป ซึ่งเมื่อวานในการประชุมครม. เป็นการนำเสนอระบบความมั่นคงด้านสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ในสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น มีความต้องการที่จะใช้เตียงในโรงพยาบาล ก็ต้องเพิ่มความมั่นใจ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการประหยัดงบประมาน เพราะเป็นงบที่นายกรัฐมนตรีผันมามาจากงบกลางเพื่อดูแลประชาชน ไม่เคยคิดที่จะตัดงบประมาณในส่วนนี้อยู่แล้ว

 

ซึ่งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสนับสนุนกรุงเทพมหานคร หากมีการร้องขออย่างเต็มที่ ยืนยันไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันและไม่เคยขัดแย้ง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด เคารพกติกาไม่ก้าวก่ายการทำงานกัน และยังย้ำว่า เตียงรักษาผู้ป่วยมีเพียงพอ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุข มีความพร้อม ทั้งโรงพยาบาลราชวิถีโรงพยาบาลเลิดสิน และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี

 

ส่วนกระแสข่าวภายในที่ประชุม ศบค.ได้รับรายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน ให้เอาไปคูณ 5 จะเป็นยอดจริงของไทย ว่า ไม่มี เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อรายงานจากความจริง เรื่องเหล่านี้ปกปิดไม่ได้และข้อมูลไม่ได้มาจากกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายเดียว

 

สำหรับมติที่ประชุม ศบค.ในครั้งนี้ ได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go ให้ปรับมาตรการป้องกันโรคโดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 โดยให้ไปตรวจแบบ ATK และแจ้งผลผ่านแอพพลิเคชั่น ในวันที่ 5 ของการเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทย รวมถึงปรับลดวงเงินประกันสุขภาพ จากเดิมไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ เป็นวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากทางอากาศ โดยจะมีผลบังคับใช้ 1 มีนาคม 2565 นี้ เนื่องจากความรุนแรงของโรคลดลง จึงทำให้ค่ารักษาพยาบาลลดลงไปด้วย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube