พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อเตรียมพร้อมรองรับกรณีมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19
ภายหลังกรุงเทพมหานคร นำโดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อเตรียมพร้อมรองรับกรณีมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิดยังพ่นพิษต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับวันนี้ในไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ผลตรวจ PCR จำนวน 17,349 ราย เสียชีวิต 22 ราย ส่วน ATK พบติดเชื้อ 11,969 ราย ทั้งนี้ จากจำนวน PCR ถือได้ว่าเป็นตัวเลขติดเชื้อสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยทางกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักการแพทย์ร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตพิจารณาเปิดศูนย์พักคอยฯเพิ่มเติม ในกรณีที่ศูนย์พักคอยฯ ซึ่งเปิดดำเนินการอยู่แล้วมีจำนวนผู้ป่วยครองเตียงมากกว่าร้อยละ 80
ซึ่งข้อมูลเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครมีศูนย์พักคอย (Community Isolation) ทั้งสิ้น 27 แห่ง มีเตียง 3,481 เตียง มีผู้ครองเตียง 1,572 เตียง และคงเหลือ 1,909 เตียงในวันนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจศูนย์พักคอยฯ วัดสะพาน เขตคลองเตย ซึ่งเปิดรับผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พบว่า สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 500 เตียง ขณะนี้มีผู้ครองเตียงแล้ว 447 เตียง คงเหลือเตียง 53 เตียง เป็นประชาชนในพื้นที่เขตคลองเตย 93 ราย เขตอื่นๆอีก 355 ราย
โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลสิรินธร เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย ร่วมกับสำนักงานเขตคลองเตยในการบริหารจัดการสถานที่และวางกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความเรียบร้อยและความสะอาด ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ยังสามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่เขตคลองเตยได้ ขณะเดียวกันทางกรุงเทพมหานครกำลังดำเนินการเปิดเพิ่มเติมอีก 13 แห่ง สามารถเพิ่มเตียงได้อีก 1,441 เตียง หากดำเนินการเสร็จสิ้นจะทำให้มีศูนย์พักคอย (Community Isolation) รวมทั้งสิ้นจำนวน 40 แห่ง มีเตียงรวมทั้งสิ้น 4,922 เตียง
ทั้งนี้ ยังมีศูนย์พักคอยฯ เขตดุสิต บริเวณศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกาย ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยเด็กอายุ 5 – 12 ปี ได้ 52 เตียงนอกจากนี้โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 11 แห่ง ได้เพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งในโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel โดยปัจจุบันมีเตียงรองรับได้ทั้งหมด 3,426 เตียง สำหรับประชาชนหากพบว่าตนติดเชื้อ สามารถเข้าสู่ระบบการรักษาได้โดยโทร. สายด่วน สปสช. 1330 แล้วกด 14 สายด่วนศูนย์เอราวัณ 1669 แล้วกด 2 หรือสายด่วนโควิดฟ (EOC) 50 เขต ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการประเมินอาการ และเข้าสู่ระบบการรักษาอย่างทันท่วงที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
