เงินเฟ้อ หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ดัชนีสะท้อนราคาสินค้าและค่าบริการในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. ได้รายงานตัวเลขล่าสุดเงินเฟ้อในเดือนมกราคม 2565 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่ร้อยละ 3.23 เป็นตัวเลขที่สูงเกินไปหรือไม่
ฝ่ายวิชาการ โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เงินเฟ้อเป็นดัชนีสะท้อนภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเติบโตอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะพยายามรักษาเสถียรภาพของอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวร้อยละ 2-3 ต่อปี แต่สำหรับประเทศกำลังพัฒนารวมถึงประเทศไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียน จะดูให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบไม่เกินร้อยละ 4-5 หากอัตราเงินเฟ้อเริ่มขยับตัวสูงขึ้นใกล้เคียงร้อยละ4 ธนาคารกลางจะเริ่มมีการส่งสัญญาณในเรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้คนได้ตระหนักว่าต้นทุนของสินค้ากำลังสูงขึ้นและควรระมัดระวังการใช้จ่าย สกัดปริมาณเงินที่จะเข้ามาในระบบเศรษฐกิจไม่ให้มากจนเกินไป ทำให้อัตราเงินเฟ้อเติบโตอยู่ในระดับที่เหมาะสม
แต่สำหรับประเทศไทยเวลานี้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวร้อยละ 3 แต่ภาวะเศรษฐกิจไม่ได้ขยายตัวอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดยในปี 2564 เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียงร้อยละ 1 และเริ่มต้นปี 2565 ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น อัตราเงินเฟ้อในระดับปัจจุบันจึงส่งผลกระทบกับชีวิตของประชาชนที่ต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงขึ้นในขณะที่รายได้ยังไม่เติบโตอยู่ในระดับที่เพียงพอเพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องออกมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อเยียวยาประชาชนบางกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันเป็นอัตราเงินเฟ้อที่เกิดในระยะสั้นจึงยังไม่ต้องใช้มาตรการใดมาสกัดเงินเฟ้อ แต่ที่ต้องทำคือการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้นชดเชยราคาสินค้าที่แพงขึ้นและมีเงินได้เหลือเก็บ
เงินเฟ้อไม่ใช่ผู้ร้ายของระบบเศรษฐกิจ แต่เป็นตัวสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชน ถ้าเงินเฟ้อสูงแสดงว่าของแพง แต่ถึงของจะแพงหากเศรษฐกิจดีคนมีรายได้ เงินเฟ้อสูงแค่ไหนไม่ใช่ปัญหา แต่เวลานี้เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวต่ำเงินเฟ้อกลับโตส่วนทาง ทำให้หลายฝ่ายต้องออกมาเรียกร้องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นอย่างบูรณาการ ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้ ไม่ต้องให้ใครแบกรับภาระเพียงฝ่ายเดียว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
