เริ่มแล้วโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ที่หลายคนตั้งตารอคอย เปิดให้ผู้มีสิทธิเดิมยืนยันสิทธิและเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-30 เม.ย. 2565
ด้านผู้มีสิทธิได้รับเงินโครงการคนละครึ่งรายใหม่ จากการเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิในวันที่ 10 ก.พ.2565 และหากลงทะเบียนสำเร็จจะสามารถใช้จ่ายได้ในวันที่ 17 ก.พ.-30 เม.ย. 2565 เป็นต้นไป ในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ก็คาดหวังว่าจะมาช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นฟูขึ้นบ้าง
ด้านภาคเอกชนก็มองว่าเป็นโครงการที่ดีที่มาช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ โดยนายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย นายสมชาย พรรัตนเจริญ ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าโครงการคนละครึ่งช่วยกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายเพียง แต่หากมองในระยะยาวคงไม่เพียงพอ และอาจทำให้ประชาชนเสพติดโครงการของรัฐบาล
ทั้งนี้นายสมชาย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเริ่มโครงการคนละครึ่งเฟส 4 นั้น สินค้าจะมีราคาสูงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะพ่อค้า แม่ค้า อาจต้องบวกเผื่อไว้เพื่อเสียภาษี รัฐบาลควรเปลี่ยนวิธี หรือ หามาตรการอื่นๆ ที่สามารแก้ปัญหาได้ตรงจุดและยั่นยื่น เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการในระยาวจะดีกว่า
จะแพงขึ้นกว่าเดิมบ้าง เพราะพ่อค้าแม่ค้าเห็นว่าไม่ใช่เงินของประชาชนทั้งหมด บางคนขายมียอดไปโชว์ ต้องเสียภาษีเพิ่ม ก็จะขายของบวกไปจากเดิมอีกนิดหน่อย เพราะต้องเผื่อไว้ไปเสียภาษีให้รัฐบาล // ควรต้องเปลี่ยนวิธีการว่าถ้าอย่างนั้น ควรเป็นการกระตุ้นแบบที่ทำให้รู้สึกว่าไม่แพงเกิน และเป็นการสร้างอาชีพให้ผู้ประกอบการจริงๆ ถ้าเผื่อรัฐลองเปลี่ยนจากการที่ทุ่มเงินลงไป 3 หมื่นกว่าล้าน ปรับถ้าเราไม่ต้องจ่าย 3 หมื่นกว่าล้าน แต่ทำให้วงการค้ามันถูกลง เช่น จัดที่ให้ปชช.ได้ค้าขายโดยไม่ต้องเสีย ค่าเช่า ค่าที่ และส่งเสริมร้านค้าเข้ามาแบบปลอดภาษี เพราะว่าคนระดับล่างของธุรกิจทุกคน อยู่บนพื้นฐานของการเสียภาษีเท่ากันกับรายใหญ่ ซึ่งการแข่งตรงนี้ไม่แฟร์กับรายเล็ก
อย่างไรก็ตามคงต้องจับตามองว่าการกลับมาของโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดิมหรือไม่ และจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้งได้รึเปล่า หรือจะเป็นเพียงวิตามินที่ทำให้กระชุมกระชวยเพียงชั่วคราว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
