หลังจากที่วัคซีนสำหรับเด็ก หรือ วัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม ได้เข้ามาถึงประเทศไทยเป็นลอตแรกจำนวน 300,000 โดส ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเตรียมพร้อมสำหรับการฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปี โดยเฉพาะ เด็กในกลุ่มป่วยโรคเสี่ยง ที่จะมีการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันความเสี่ยงและอาการป่วยหนักแก่เด็กในกลุ่มดังกล่าว
วันนี้ ทีมข่าวไอ.เอ็น.เอ็น พามาติดตามบรรยากาศ การตรวจเยี่ยม การฉีดวัคซีนเด็กที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เขตราชเทวีโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าตรวจเยี่ยมการเริ่มต้นฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี สำหรับกลุ่มเด็กป่วยโรคเรื้อรัง
ด้านนายอนุทินกล่าวว่าขณะนี้ได้มีวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้มเข้าสู้ประเทศไทยล็อตแรกแล้ว 3 แสนโดสโดยได้ทำการสั่งซื้อทั้งหมดจำนวน 10 ล้านโดส และจะทยอยส่งมาจำนวน 3 แสนโดสต่อสัปดาห์ โดยจะเริ่มฉีดให้แก่เด็กกลุ่มที่มีโรคประจำตัวก่อน นอกจากนี้ยังได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี ในโรงเรียนประถมอีกด้วย ด้านความกังวลเรื่องอาการข้างเคียง นายอนุทินได้กล่าวว่า วัคซีนที่ฉีดเป็นวัคซีนที่มีมาตรฐาน ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตไม่น่าจะมีอยู่ แต่จะมีอาการข้างเคียงบ้าง เช่น มีไข้อ่อน ผื่นแดง ปวดศีรษะเล็กน้อย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ “วันนี้ วัคซีนเรามาอยู่ในระดับที่เรียกว่า สามารถดูแลประชาชน ประชากรทั่วทั้งประเทศได้ แล้วก็ตั้งแต่เด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป ก็หวังว่าในสัปดาห์หน้านะครับ ก็จะครอบคลุมตั้งแต่เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป จนถึงสิ้นอายุขัย
ด้านนาง ธนิตา นันทขว้าง พร้อมลูกชายวัย 10 ขวบ ที่มาฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กกล่าวว่า ตนรู้สึกมั่นใจกับวัคซีนที่ฉีด เนื่องจากตนก็ได้ฉีดมาก่อน อีกทั้งลูกชายของตนเป็นหอบหืดก็มีความกังวลในส่งดังกล่าว และส่วนตัวคิดว่าวัคซีนสำหรับเด็กควรจะมีการนำเข้ามาให้เร็วกว่านี้ส่วนตัวนะ ส่วนตัวแม่เองมีความมั่นใจค่ะ เพราะแม่ฉีดมาแล้วจากประสบการณ์ตอนที่แม่ติดโควิด แม่ก็เลยกลัวว่าตอนนั้นน้องจะติดแต่น้องไม่ติด จริงๆแม่อยากจะบอกผู้ปกครองนะคะว่าควรฉีดค่ะ ในความรู้สึก เพราะอย่างน้อยมันก็ป้องกันได้ เพราะว่าเด็กยังไงภูมิต้านทานมันก็ไม่เหมือนเรา ถ้าฉีดแล้ว อย่างน้อยๆลูกเราน่าจะมีอาการน้อยกว่า ถ้าเราติดโควิดขึ้นมาจริงๆ
ทั้งนี้ นายอนุทินยังได้กล่าวว่า ขณะนี้ทางสธ.ได้มีการยื่นขออนุมัติการฉีดวัคซีนซิโนแวคแก่เด็กอายุ 3 ขวบ ให้แก่ทางอย.แล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหากได้รับการอนุมัติเมื่อไหร่ก็พร้อมนำมาฉีดให้กับเด็กกลุ่มอายุ 3 ขวบทันที นายอนุทินยังได้กล่าวเพิ่มว่า หากการฉีดวัคซีนครอบคลุมทุกกลุ่มอายุมากขึ้น ความเสี่ยงของโรคก็จะลดลง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับคนที่มาฉีด ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มอายุ 3 ขวบในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป พร้อมกันนี้ยังได้แจกอั่งเปาและของขวัญแห่งความสุขให้แก่เด็กที่มารับวัคซีนอีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
