fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ก้นถังเหลือ2แสนล.เงินกู้สู้โอไมครอน

การขับเคลื่อนเดินเกม ดันเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปี 2564 ยังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือแรงเหวี่ยงสำคัญที่จะส่งผลไปถึงปี 2565

 

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบของขวัญปีใหม่ ที่นายกลุงฯตู่เตรียมแจกให้กับประชาชนจึงเกิดขึ้น แน่นอนว่า ผลลัพธ์ ไม่เพียงแค่เม็ดเงินจะสะพัดไหลลงสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว แต่ยังหนุนคะแนนนิยมนายกลุงฯตู่และรัฐบาลให้ดูดีขึ้นอีกด้วย

เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ “นายดนุชา พิชยนันท์” เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เศรษฐกิจไทยในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี 2564 ยังดีต่อเนื่อง ส่วนปีหน้า 2565 จะมีความเสี่ยงอยู่ 2 เรื่อง ที่ต้องระวัง เรื่องที่ 1 คือ การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 และ อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ทั้งนี้มองว่า ถ้าปี 2565 ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวงกว้างเหมือนกับปีนี้ก็เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าโตได้ 4%

(ปล่อยเสียง สศช.1) “ถ้าเกิดว่าระบาดมาก ก็จะกระทบกับเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศ เรื่องของภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้ จากการเดินทางภายในประเทศ แล้วเราก็เริ่มเปิดประเทศ อันนี้ก็ต้องระมัดระวัง แต่ว่าโดยรวมคิดว่า ปีหน้าถ้าไม่มีการระบาดที่รุนแรงแบบปีนี้ หมายถึงว่าไม่มีการระบาดเป็นวงกว้างอย่างปีนี้ เศรษฐกิจไทยก็น่าจะฟื้นตัวไปได้ดี ในระดับที่คิดว่าจะโตได้ที่ประมาณ 4% ตามที่ประกาศไว้”

นายดนุชา กล่าวด้วยว่า เครื่องยนต์สำคัญที่จะเป็นพระเอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ทางสภาพัฒน์ ยกให้การส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

“ก็คงเป็นเรื่องการส่งออก ปีหน้าก็จะเป็นการส่งออก และถ้าเรามีมาตรการออกมา ในเรื่องของการดึงดูดนักลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งตอนนี้ก็กำลังทำกันอยู่ ก็จะมีเรื่องการลงทุนเข้ามาเป็นเครื่องยนต์อีกตัวหนึ่งที่จะช่วยได้ และก็เรื่องการบริโภคภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากภาครัฐเอง ก็ยังเป็นตัวหลัก ควบคู่กับการส่งออก”

และเมื่อถามถึงความคืบหน้าการใช้จ่ายเงินกู้จากพ.รก. 5 แสนล้านบาท เพื่อดูแลฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ล่าสุด เงินได้ถูกนำมาใช้จ่ายแล้วในช่วงไตรมาส 3 และขณะนี้เหลืออยู่ 2.2 แสนล้านบาท

(ปล่อยเสียง สศช.3) “เงินตอนนี้ วงเงิน 5 แสนล้านในพ.ร.ก. ถูกใช้ไป เหลืออยู่ประมาณ 220,000 ล้าน ตอนนั้น 2 แสนกว่าล้านที่ถูกใช้ไป ถูกใช้ไปในช่วงการระบาดไตรมาส 3 หลักๆก็คือการเยียวยา SMEs และก็ประชาชน และก็ใช้ในการรักษาพยาบาลช่วงที่ผ่านมา แล็วก็มีใช้ไปในเรื่องของการรักษาระดับการจ้างงาน ที่มีโครงการเพิ่งได้ออกไป”

เลขาธิการ สภาพัฒน์ กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้ ก็คือ ทุกคนจะต้องร่วมมือ เพื่อไม่ให้โควิด-19กลับมาระบาด เพราะถ้ามีการล็อกดาวน์ขึ้นมาอีก ก็ต้องนำเงินกู้ในส่วนนี้มาเยียวยา

(ปล่อยเสียง สศช.4) “ก็ยังสบายใจได้ระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่าก็ต้องช่วยกัน ไม่ให้เกิดการระบาด แล้วก็ต้องช่วยกัน ไม่ให้เกิดระบาดจนกระทั่งล็อกดาวน์ เพราะถ้าล็อกดาวน์ก็ต้องนำเงินมาเยียวยา ก็จะทำให้ต้องใช้วงเงินในส่วนนี้เข้าไปช่วย สถานการณ์จะดีขึ้นยังไงก็ตาม เราก็คงต้องทำตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป”

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2564 และปีหน้า 2565 ที่เชื่อมโยงกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้โอไมครอนกำลังระบาดทั่วโลก หลังปัจจุบันมี 77 ประเทศพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวแล้วตามการรายงานขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ซึ่งสหรัฐฯ ก็ยอมรับว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในไม่ช้านี้นั่นเอง

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube