fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ม็อบเด็ก+10ล้อ+ผับ=ลุง

Featured Image
ม็อบเด็ก+10ล้อ+ผับ=ลุง ไม่ยอมรับอำนาจรัฐ ด้วยการก่ออารยะขัดขืน ไม่ทำตามกฎหมาย

ในขณะที่ “นายกฯลุงตู่”ไปเดินทะเลชิลๆเป็นพระเอกMVเพลง “ทรายกับทะเล”ของ “ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย” กับคณะรัฐมนตรี ที่มาประชุม ครม.สัญจรที่ จ.กระบี่เมื่อวานและวันนี้เจอกับเด็กๆก็บอกว่าเป็นคนรักเด็ก ในขณะที่กรุงเทพฯนอกจากการปฏิบัติเหมือนจะ “ไม่รักเด็ก” โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเกี่ยวข้องด้านความมั่นคงกำลังดำเนินคดีกับ “ม็อบเด็ก”และแกนนำ ที่ก่อม็อบไล่แบบ “ทะลุเพดาน” วันอาทิตย์(14พ.ย.) ที่กำลังมีการกระซุ่นยุจาก “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม”ให้เจ้าหน้าที่ใช้ “ใบเบิกทาง”ที่เพิ่งได้รับมา เร่งกวาดล้างเด็กที่เห็นต่างจาก “ผู้ใหญ่” จนวันนี้(16พ.ย.)กำลังจับตากันที่การประชุมพิจารณา รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่ให้จัดการโครงสร้างการสืบทอดอำนาจทั้ง สว.250 และ องค์กรอิสระ ที่ก็จะมีการลงมติของสภาพรุ่งนี้(17พ.ย.)ที่ถูกมองว่าจะเป็นจังหวะให้ “ม็อบเด็ก”มาเคลื่อนไหวที่หน้ารัฐสภา ที่รอบนี้เหมือนกลับไป “วนลูป”ปี62 ที่จะคู่ขนานไปกับ “ม็อบความเดือดร้อน”จากปัญหา “โควิด-เศรษฐกิจ”ที่เป็น “จุดอ่อน”ของ “นายกฯลุงตู่”ที่ถนัดโหมด “ความมั่นคง”มากกว่าเศรษฐกิจ ดังอาการร่อแร่จาก “ศึกซักฟอก”ครั้งที่ผ่านมาที่เกิดกลายเป็น “ผลกระทบ”ต่อ “สถียรภาพรัฐบาล”จากความขัดแย้งระหว่าง “นายพล”กับ “ผู้กอง”ถึงทุกวันนี้แบบที่รอการเคลียร์ในนัดกระชับมิตร 26พ.ย.ก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะจบแบบสะเด็ดน้ำ

โดยม็อบความเดือดร้อนของประชาชน ที่รอให้ “นายกฯลุงตู่”กลับมาปัญหา น่าจับตาอยู่2กลุ่ม คือ “ม็อบสิบล้อ”กับ “ม็อบคนกลางคืน” โดยเจ้าแรก มาวันนี้(16พ.ย) ดังภาพ ในช่วงสายถนนวิภาวดี รถติดหนัก หน้ากระทรวงพลังงาน จากขบวนรถพ่วงรถบรรทุกและรถโดยสาร ที่แห่มาจากทุกภาคมาทวงสัญญารอบ2 เรียกร้องลดภาษีน้ำมันดีเซลเหลือ25บาท หลังไปเรียกร้องกับรัฐบาล แต่ถูกเมินไม่มาคุยด้วยและปล่อยลากยาวมาเป็นเดือน จากการเรียกร้องครั้งก่อน โดยแกนนำผู้ประกอบการขนส่งสินค้าบอก หากครั้งนี้รัฐบาลยังเฉยกับความเดือดร้อนประชาชน จากปัญหาการขนส่งที่ส่งผลกระทบข้าวของแพงเวลานี้ ก็จะยกระดับเป็นการ “ม็อบไล่รัฐมนตรีพลังงาน”และรัฐบาล

ส่วนอีกม็อบ วันพรุ่งนี้ (17พ.ย.)จะมี “ม็อบร้านเหล้า” นักดนตรีอิสระ วณิพก เจ้าของผับบาร์ จะไปม็อบเปิดคอนเสิร์ตที่หน้ารัฐสภาในแคมเปญ “รัฐสภาแซนด์บ๊อก” ตูจะเล่น ตูจะเปิด ใครจะทำไม ไม่มีจะกินแล้ว เพื่อเรียกร้อง โดย “นายเอกราช อุดมอำนวย” เจ้าของร้านแอเรียล11 หนึ่งในตัวแทน บอกว่า จะมีผู้ร่วมประมาณกว่าพันคน เพื่อแสดงอารยะขัดขืนต่อนโยบายรัฐบาล เพราะทนไม่ไหวตกงานมา 15 เดือน ต้องไปทำอาชีพอื่น ที่พอจะมีความหวังเปิดประเทศ 1ธ.ค.บางคนไปไถ่เครื่องดนตรีที่จำนำไว้มาแล้ว แต่ศบค.กลับบอกให้รอดูอีกทีวันที่ 15ม.ค.แบบยังไม่มีอะไรชัดเจนว่าถึงเวลาจะเปิดหรือไม่ ไม่มีการคิดมาตรการให้ผับบาร์เดินหน้าไปกับการกำหนดมาตรการได้ มัวแต่ไปเดินเล่นริมทะเล ซึ่งการไปชุมนุมที่สภาฯเพราะเคยไปทำเนียบฯแล้วไม่มีประโยชน์ โดยจะไปยื่นหนังสือให้ส.ส.รัฐบาล และส.ส.ฝ่ายค้านให้กระทุ้งรัฐบาล ว่าจะทบทวนหรือมีมาตรการเยียวยาอย่างไร เพราะทุกคนขาดรายได้หลายคนเป็นโรคซึมเศร้า

เช่นเดียวกับ”นายอนันต์”เจ้าของร้านเหล้าแสงจันทร์ที่อัดคลิประบายลงFBก่อนหน้านี้เมื่อวาน(15พ.ย.)ว่า รัฐบาลสั่งปิดสถานบันเทิงมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดตั้งแต่ เม.ย. 2564 ผ่านมา 8 เดือน รวมครั้งที่ 1 และ 2 ปิดไปแล้ว 15 เดือน ทั้งที่พนักงานในเครือกว่า 1 พันคน จาก 8 สาขาและร้านในเครืออีก 1 ร้าน รวมทั้งนักดนตรี ไม่มีใครติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่คนเดียว ที่ผ่านมาสถานบริการถูกเพ่งเล็งมาโดยตลอดว่าเป็นแหล่งแพร่เชื้อ เมื่อมีการฉีดวัคซีน พนักงานในร้านก็ไปฉีดกันทุกคน กระทั่ง นายกประกาศเปิดประเทศ 1 พ.ย. และ 1 ธ.ค. 64 สถานบริการจะกลับมาเปิดทำการได้ เป็นความหวังของผู้ประกอบอาชีพในสถานบริการทุกคน ด้วยความเชื่อมั่นนายกฯ จึงเรียกผู้บริหารแสงจันทร์ทุกสาขามาประชุมเพื่อวางแผนเตรียมกลับมาเปิดอีกครั้ง พร้อมกับให้เคลียร์ค่าใช้จ่ายที่ค้างไว้ และแจ้งข่าวพนักงานที่แยกย้ายไปทำอาชีพอื่นต่างจังหวัดให้กลับมาทำงาน โดยต้องได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ก็มาเจอเลื่อนอีก และว่า ที่ผ่านมารัฐบาลหรือ ศบค.ไม่เคยมีมาตรการใดๆ มาให้สถานบริการปฏิบัติ นอกจากสั่งปิดและอนุญาตให้เปิดเท่านั้น ถามว่ายุติธรรมแล้วหรือไม่ ที่ต้องจ่ายภาษี แต่กลับไม่มีมาตรการเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาเปิด ทั่วประเทศมีคนภาคบริการอยู่ประมาณ 1 ล้านคน ถ้านับครอบครัวเท่ากับ 4-5 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบ จึงย้ำว่า ศบค.ต้องทบทวน หากคิดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ต้องให้แนวทางแก้ไขปรับปรุงมา

เรียกว่าทั้ง ม็อบเด็ก ม็อบ10ล้อ ม็อบผับบาร์ ที่กำลังแสดงการไม่ยอมรับอำนาจรัฐ ด้วยการก่ออารยะขัดขืน ไม่ทำตามกฎหมาย เพราะเห็นตัวอย่างจากการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นแบบทนรอในความทุกข์ความเดือดร้อนปากท้องมานับปี แม้มีความต้องการที่ต่างในข้อเรียกร้อง แต่เป้าหมายกลับพุ่งตรงไปที่เดียวกันคือ “นายกฯลุงตู่”และรัฐบาล ที่น่าสนใจคือทั้งหมดเริ่มส่งสัญญานว่า “หมดหวัง”ต่อ “ฝ่ายบริหาร” และคาดหวังต่อ“ฝ่ายนิติบัญญัติ” ที่มีส.ส.ผู้แทนของพวกเขาอยู่ในนั้น ในจังหวะที่ปี่กลองเลือกตั้งกำลังดังย้ำถึงความเปลี่ยนแปลงทางอำนาจที่เริ่มมีอัตราเร่งไม่แต่เฉพาะปัญหา “ความขัดแย้งภายใน”ที่ก็สะท้อนภาพบทบาท “ฝ่ายส.ส.”และ”นายกฯ”ผ่าน “ผู้กองนัส”และ “นายกฯลุงตู่”เช่นกัน.

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube