fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ยังผวากับดักสภาฯ

ยังผวากับดักสภาฯ นายกฯกังวลคนจ้องล้มรัฐบาล

 

ผ่านไปได้แบบฉลุยวันนี้(9พ.ย.64)กับการประชุมร่วมกันรัฐสภา ลงมติ ผ่านร่างพรบ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่ค้างมาจากการประชุมร่วมกันรัฐสภาครั้งที่ 7 ในสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ครั้งนั้นประธานฯสั่งให้สมาชิกกดบัตรแสดงตน แต่ยังไม่ทันได้แสดงตนเสร็จก็เป็นเหตุต้องสั่งปิดการประชุมซะก่อน ที่ครั้งนั้นว่ากันมาจากเอฟเฟกต์เหตุการณ์ 8ก.ย. ที่มีการปลด2รัฐมนตรี  “ผู้กองนัส-อ.แหม่ม”ที่ไม่ได้ถูก “ซักฟอก” หากแต่มีความเกี่ยวข้องกับข่าว ขบวนการกบฎโค่นล้ม “นายกฯลุงตู่” ผ่านผลการลงมติในสภากับ“ศึกซักฟอก”ที่ “นายกฯลุงตู่”ได้คะแนนไว้วางใจรองบ๊วย ทีกรณีดังกล่าวกลายเป็นร่องรอยปริแตกภายในรัฐบาลจากพรรคหลัก “พลังประชารัฐ”(พปชร.)ถึง ทำเนียบรัฐบาล ระหว่าง “นายพลกับผู้กอง”และลามถึงอาการงอนง้อในศูนย์อำนาจ3ป.ระหว่าง “พี่ใหญ่” “น้องเล็ก”ที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับผลัดกันยอม ผ่านปรากฎการณ์กระเพื่อมในพปชร.จนมาถึงวันนี้

ที่แม้ภาพจะปรากฎในลักษณะคล้ายมีการ“สงบศึกในชั่วคราว”เพราะเหตุ “ศึกนอก”กำลังก่อตัว โดยการตั้ง “นิโรธ”ที่ถูกมองว่า “นายกฯลุงตู่”ไว้ใจ และเป็นส.ส.สายเหนือนที่อยู่ในกลุ่ม “ผู้กองนัส”มาเป็น “ประธานวิปรัฐบาล”แทน “วิรัช รัตนเศรษฐ”และภริยารวมถึงน้องภริยา 3 ส.ส. พปชร.ที่ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่เพราะเหตุศาลการเมืองรับคดีฟุตซอลพิจารณา แถมยังมีการย้ายการประชุมวิปรัฐบาลไปอยู่ที่ทำเนียบใกล้หูใกล้ตานายกฯตามต้องการเริ่มประชุมกันเมื่อวานแบบยังไม่ค่อยครบ แต่ภาพนับตั้งแต่เปิดสภาสมัยประชุมนี้ก็ถูกสะท้อนถึงสัญญานชัดว่า“ประธานวิปคนใหม่”รวมถึง “นายกฯลุงตู่”น่าจะเหนื่อย เพราะเพียงแค่เริ่มจุดสตาร์ท ก็มี เหตุสภาล่ม หรือเหตุที่ส.ส.ฝ่ายค้านป่วน และมีการประจานรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้เรื่องที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อน ที่กำลังถูกเชื่อมโยงไปถึง “นายกฯลุงตู่”แบบที่ “หมอชลน่าน”ประเดิมจี้ให้ “นายกฯลุงตู่” ต้องมาตอบกระทู้ถาม ส.ส.ฝ่ายค้านในที่ประชุมสภาฯ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 150 ของรัฐธรรมนูญ  รวมถึงที่ฝ่ายค้านเองก็เตรียมรอจังหวะยื่นอภิปรายแบบไม่ลงมติหลังจากนี้ และไม่นับรวมข่าวก่อนหน้าว่าสมัยประชุมนี้มีความสุ่มเสี่ยงที่กฎหมายสำคัญจะถูกคว่ำจนมีผลให้เกิด “อุบัติเหตุการเมือง”กับ “นายกฯลุงตู่”และรัฐบาล

ที่อาการดังว่าเป็นเหตุผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “ประธานวิปรัฐบาล”และย้ายที่ประชุมไปทำเนียบฯ แม้ว่า เอาเข้าจริงถึงเวลาหน้างานในสภาฯเมื่อถึงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม ส.ส.พปชร. ที่ว่ากันว่าส่วนใหญ่ อยู่ในการจัดการรายเดือนที่“บ้านป่ารอยต่อ”ของ “หัวหน้าป้อม”ที่ประกาศทุกเวทีว่า “ใจถึงพึ่งได้”เลิกกลุ่มก๊วนมีอะไรมาหา “หัวหน้าป้อม”ที่ยังคงมีมือขวาเป็น “ผู้กองนัส” จะเป็นไปตามทิศทางจาก “วิปรัฐบาล”หรืฟอไม่ ก็ยังน่าพิจารณา ที่ปมนี้ยังเป็น “ติ่งคาใจ”ให้ “นายกฯลุงตู่”ยังมาคลายกังวล แบบที่เมื่อวาน(8พ.ย.)เปรยดังว่ามีคนคิดล้มกฎหมายในสภา เพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็น “คนใจร้าย”กับประชาชน  เมื่อนักข่าวถามถึงการเปลี่ยน “ประธานวิป”เป็น “นิโรธ”แล้วสบายใจขึ้นมั้ย ว่า วิปทุกพรรคต้องร่วมมือกัน ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของความยากลำบาก โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายที่จำเป็นและสำคัญ เรื่องที่ต้องปฏิรูป มากกว่าเอามาเป็นความขัดแย้งกันที่ไม่เกิดประโยชน์อะไร อย่าลืมว่าตนควบคุมสภาไม่ได้ ไม่ได้คุม “ทั้งวิปฝ่ายรัฐบาล วิปฝ่ายค้านต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เรื่องไหนสำคัญ เรื่องไหนจำเป็นต้องออก กฎหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถเศรษฐกิจ และสังคม สิ่งแวดล้อม หรือการศึกษา รวมทั้งการปฏิรูป มันต้องออก ไม่ใช่ไม่ออกเพื่อให้รัฐบาลล้ม ตนว่าใจร้ายเกินไป ใจร้ายกับประเทศเกินไป และปฏิเสธข่าวการยกหูเคลียร์กับ “ผู้กองนัส”แล้ว ว่ายังไม่ได้คุยแค่เคยคุยกันไปครั้งหนึ่งตอนแรกๆก็ดีก็คุยกัน ส่วน พปชร.เป็นปึกแผ่นมากขึ้นหรือไม่ “นายกฯลุงตู่”ย้อนว่า “ถ้าไม่มีใครคอยยุแยงตะแคงรั่ว ก็จะดีอยู่มั้ง” และตอบกรณี โหรสว. “วันชัย” ทำนายฟันธง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รัฐบาลจะแตกกันในปีหน้า และใกล้ที่จะเลือกตั้ง ว่า“ก็นี่ไงเปลี่ยนตัวประธานวิปไง”

เรียกว่าเป็นอีกช็อตที่สะท้อนข้ออ่อน ที่แม้ว่า “นายกฯลุงตู่”ซึ่งถือเป็น ผู้นำฝ่ายบริหาร ซึ่งอยู่ในกลไกถ่วงวดุลใน 3 อำนาจกับฝ่ายนิติบัญญัติ และ ฝ่ายตุลาการ รวมถึงองค์กรอิสระ จะแหยงที่จะเข้ามาอยู่ในโซนอันตรายที่ “ฝ่ายบริหาร”ซึ่งมีหน้าที่ จะต้องถูกตรวจสอบจาก “ฝ่ายนิติบัญญัติ”ในการบริหารบ้านเมือง แบบที่มีกระบวนการให้ส.ส.ซึ่งเป็นผู้แทนราษฎรตั้งกระทู้ถามหรืออภิปรายตรวจสอบนโยบายทั้งการอภิปรายทั่วไปและอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ในทางการเมือง“นายกฯลุงตู่”ย่อมได้รับการปกป้องจากส.ส.รัฐบาล ผ่านวิปรัฐบาล หากแต่นับตั้งแต่8ก.ย.ที่มีใครใจร้ายไม่จบกับใครบางคนที่ประกาศหลังจากนั้นว่า”เป็นคนเจ็บจำนาน” ได้ทำให้การปกป้องนายกฯในโซนสภาฯที่เคยเป็นเปลี่ยนไปแบบพร้อมจะเกิดภาพ “คนใจร้าย”กับ“นายกฯลุงตู่”แบบที่พูดลอยลมไปถึง ได้ทุกเมื่อเช่นกัน.

 

“บิ๊กตู่” เผยคุย “ธรรมนัส” ครั้งหนึ่ง ก็ดี ย้ำยังเป็นปึกแผ่นกับพปชร.หากไม่มีใครยุแยงตะแคงรั่ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยตรงว่า “คุยไปครั้งหนึ่งมั้ง” และถามย้ำว่าดีขึ้นหรือไม่หลังพูดคุยไปครั้งหนึ่งนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยมาคุยด้วยครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ดี ก็คุยกัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความเป็นปึกแผ่นกับพรรคพลังประชารัฐมากขึ้น และเป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาล ว่า “ถ้าไม่มีใครยุแยงตะแคงรั่ว มันก็ดีอยู่มั้ง”

นอกจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวภายหลังเป็นประธานในการรับฟังการแถลงผลงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) และโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนในปี 2565 ว่า วันนี้ได้รับฟังการข้อสรุปผลงานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือ กพต. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทุกกระทรวงมีส่วนร่วมโดยใช้งบประมาณตามกฎหมาย แต่ส่วนที่ดำเนินงานคือ ศอบต. งบประมาณอีกส่วนหนึ่งคือ กอ.รมน.ที่เป็นเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ทหาร ศอบต. ก็เรื่องโครงการต่างๆที่จะเข้าไปเสริม

ส่วนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้ดีขึ้น ความเชื่อมั่นดีขึ้น เหตุการณ์ ความรุนแรงลดลงเป็นเพราะความเอาใจใส่ของทุกคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วยเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ขอให้เห็นใจทหารตำรวจที่ลงไปอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ เบี้ยเลี้ยงได้น้อยกว่าจะได้กลับบ้าน แต่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องการเพียงกำลังใจไม่ได้เรียกร้องอะไร

และยังกล่าวถึงการประชุมวิปรัฐบาลนัดแรก ว่าเป็นเรื่องของกลไกลสภา รัฐบาลมีหน้าที่ในการแต่งตั้งอนุมัติตำแหน่งเท่านั้น แต่เป็นกลไกลของสภา สิ่งสำคัญที่สุดทำอย่างไรให้สภาทำหน้าที่ได้ แต่ทั้งหมดไม่ใช่เพราะประธานวิปรัฐบาลเพียงอย่างเดียว วิปของพรรคการเมืองต้องร่วมมือกัน ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงเวลาของความยากลำบาก เป็นเวลาที่จะต้องร่วมมือกัน ทั้งในเรื่องของกฏหมายที่จำเป็นและสำคัญ รวมถึงเรื่องที่จะต้องปฏิรูป มากกว่าเอามาเป็นความขัดแย้งกัน สภาควรจะเป็นเช่นนั้น ตนไปบังคับใครไม่ได้ ขณะที่บ้านเมืองกำลังลำบาก ประชาชนเดือนร้อน ไม่มีใครได้ประโยชน์ ใครจะเข้ามาสู่อำนาจ ก็ต้องเจอปัญหาเหมือนในขณะนี้ ซึ่งจะทำให้ความขัดแย้งสูงไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบ ถ้าทุกหันหน้ามาพูดคุยกันในสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งใดไม่ดีก็ทักท้วงมา ถ้าทำแบบนี้ได้ประเทศไทยก็ไปได้ไกล

เมื่อถามย้ำว่า ได้นายนิโรธ สุนทรเลขา เป็นประธานวิปรัฐบาล ทำให้สบายใจขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบ เพราะตนควบคุมงานในสภาไม่ได้ เป็นเรื่องของวิปทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เรื่องไหนที่สำคัญ เรื่องไหนเป็นกฏหมายที่สำคัญ จำเป็นต้องพิจารณา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา ก็ต้องให้ผ่าน ไม่ใช่จำทำให้รัฐบาลล้ม ซึ่งมองว่าใจร้ายกับประเทศเกินไป

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลว่าไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคและหัวหน้าพรรค ให้ไปว่ากันมา ตนอะไรก็ได้ ทำงานให้ประชาชนอยู่แล้ว

ทั้งนี้ เมื่อถามว่านายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ออกมาทำนาย ว่าปีหน้าจะเกิดการเปลื่ยนแปลงทางการเมืองใหญ่ นายกรัฐมนตรี พูดติดตลก ว่า ก็เปลื่ยนประธานวิปรัฐบาล

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube