fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เปิดประเทศVSฉีด100ล้านโดส…อะไรจะเป็นไปได้

เปิดประเทศVSฉีด100ล้านโดส…อะไรจะเป็นไปได้

จากคำประกาศ และความรับผิดชอบต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรวมถึงในฐานะ ผอ.ศบค. เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่าจะเปิดประเทศใน 120 วัน โดยเริ่มนับถอยหลังจากวันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป และจะเร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนโดยเร็วที่สุดหลังเคยตั้งเป้าฉีดให้ครบ 100 ล้านโดสภายในปี 2564 ซึ่งสถานการณ์การระบาดในวันนั้นก็ไม่มีสัญญาณว่าจะทุเลาเบาบางลงแต่อย่างใด แต่นั่นก็ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่รอวันพิสูจน์ของผู้นำประเทศ เพราะถ้าทำได้ ทุกมิติ ทุกแง่มุม ทั้งสถานการณ์การเมือง เศรษฐกิจ สังคม จะดีขึ้นทันที และจะอยู่ต่ออีกกี่ปี ก็คงไม่มีใครกล้าออกมาขับไล่ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็คงอย่างที่เห็น สารพัดม็อบก็จะค่อยๆ ออกมาจนเต็มท้องถนนแน่นอน

แต่กลับกัน เมื่อเริ่มคิกออฟ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นับถอยหลังเปิดประเทศเป็นทางการ สถานการณ์แพร่ระบาดก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทยอยกระชับพื้นที่ปัจจุบันยกระดับพื้นที่เป็นสีแดงเข้มแล้ว 29 จังหวัด และที่สำคัญไม่มีพื้นที่ไหนเป็นสีเขียวเลย แม้แต่ภูเก็ต ก็มียอดสะสมวันละ 2 หลักต่อเนื่อง ดังนั้นเหลืออีก 82 วัน ครบเดดไลน์ที่ชายชาติทหารให้สัญญาไว้ จะไปต่อได้ หรือจบเกมเปิดประเทศไว้แค่นี้ คงต้องรอลุ้นกันอีกที เช่นเดียวกับฉีดวัคซีน พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล เคยคุยคำโตประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของการผลิตวัคซีน ประชาชน จะมีวัคซีนฉีดเต็มแขน แต่นับจากวัคคิกออฟปูพรมฉีดทั่วประเทศ 2 เดือนเต็ม ประเทศไทยไม่ได้มีวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนเลย ยอดรวมฉีดไปได้แค่ 20 กว่าล้านโดสเท่านั้น และกลายเป็นต้องรอรับวัคซีนบริจาคของมิตรประเทศมาฉีดแทนในบางช่วงเวลา เพราะของที่สั่งซื้อไม่มาตามแผน ส่วนสิ้นปีจะฉีดครบ 100 ล้านโดส หรือไม่ คงไม่นานเกินรอ เพราะหากนับถึงวันนี้ ก็เหลือเพียง 144 วันเท่านั้น กับยอดที่ต้องฉีดเพิ่มอีกประมาณ 80 ล้านโดสเพื่อบรรลุเป้าหมาย จะทำสำเร็จหรือไม่ หรือคำสัญญาของผู้นำประเทศ จะเป็นเพียงลมปาก ทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งเปิดประเทศ และฉีดวัคซีน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube