fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

1ลล.กู้ไม่จบเจ็บไม่จำเซ่นโควิด

1 ลล.กู้ไม่จบเจ็บไม่จำเซ่นโควิด

ยังคงทำนิวไฮ แบบวันต่อวัน สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ที่ทะลุหลักหมื่น และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด แม้ว่ารัฐบาลโดย ศบค.จะใช้ “ยาแรง” ทั้ง “ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว” พื้นที่เสี่ยงแล้วก็ตามมีการประเมินว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ยังไม่รวมการตรวจคัดกรองผ่านชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เข้าไปด้วย ดังนั้นมีโอกาสที่จุดพีคของผู้ติดเชื้อถูกยืดระยะเวลาออกไป

ทั้งนี้ เมื่อจุดพีคยังไม่ถึงขีดสุด มาตรการเพื่อคุมการระบาดจึงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งการขยายระยะเวลา ล็อกดาวน์ ต่อไปอีก 14 วัน รวมถึง “อู่ฮั่น โมเดล” ที่ครั้งหนึ่งนั้น เคยเกิดขึ้นในประเทศจีนมาแล้ว แน่นอนว่า มาตรการที่เข้ม ก็ต้องมาพร้อมกับความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถูกเชื่อมโยงกับเงินเยียวยาที่ผูกติดกับเงินกู้

ดังนั้นจึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า แล้ววิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นระลอกนี้ เงินกู้ที่มีอยู่ทั้ง 1 ล้านล้านบาท และล่าสุดกับ 5 แสนล้านบาทเพียงพอหรือไม่ และถ้าต้องกู้ ต้องกู้อีกเท่าไร เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. พาไปสะท้อนมุมมองภาคเอกชนในเรื่องนี้ โดย “นายเกรียงไกร เธียรนุกุล” รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. บอกว่า รัฐบาลจำเป็นต้องกู้อีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุกเศรษฐกิจให้คงมีชีพจร เพราะการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อนั้น ทำให้เกิดความเสียหายนับแสนล้านบาท

และเมื่อถามว่า ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะกู้เงินได้อีกหรือไม่ เพราะการกู้อีก 1 ล้านล้านบาท ย่อมส่งผลต่อสัดส่วนตัวเลขหนี้สาธารณะ ที่อาจจะทะลุ 60%ต่อจีดีพี ซึ่งเรื่องนี้ รองประธาน ส.อ.ท.บอกว่า ไม่มีปัญหา

จากนี้ต่อไปคงต้องจับตาการเดินเกมรุกของรัฐบาลในการออกมาตรการเข้มเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด รวมถึงการเยียวยาและแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ถูกยึดโยงกับเงินกู้ก้อนเก่าและก้อนใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกในเร็วๆ นี้ เพราะล่าสุด กระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูลู่ทางนี้อยู่นั่นเอง

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube