จนท.เกาะพะงันบุกจับทัวร์เถื่อนบริการเช่ารถATV
เจ้าหน้าที่ เกาะพะงันบุกจับ ทัวร์เถื่อน เปิด บริการให้เช่ารถATV นักท่องเที่ยวคาหนังคาเขา
วันนี้(21พ.ค.67)พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครอง ปลัดป้องกัน เกาะพะงันบุกจับ ทัวร์เถื่อน เปิด บริการให้เช่ารถATV แก่นักท่องเที่ยวคาหนังคาเขาวันที่ 20 พฤษภาคม2567 เจ้าหน้าที่เกาะพะงันนำโดยตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมกำลัง
บุกเข้าตรวจค้น บริเวณริมถนนท้องนาง-ท้องนายปาน ม.2 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพิ่งเปิดให้บริการ เช่ารถ ATV นักท่องเที่ยว ซึ่ง ก่อนเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มสังเกตการณ์ และเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม ซึ่งขณะจับกุมมีนางสาวนุจรีย์ภรณ์ สัญชาติ ไทย อายุ 33 ปี แสดงตัวอ้างว่าเป็น กรรมการบริษัท นำเที่ยวในเกาะพะงันนางสาวนุจรีย์ภรณ์ ยังได้นำเอกสารมาแสดงให้แก่ เจ้าหน้าที่ด้วยแต่ เอกสารดังกล่าว ได้หมดอายุไปนานแล้ว แต่ยังให้บริการอยู่ ซึ่งการตรวจค้นพบ พนักงาน ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่
ทราบชื่อนายอับดุลฮาซัน อายุ 28 ปี สัญชาติ ไทย คอยทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แนะนำ เส้นทางการขับขี่ รถ ATV และบรรยายถึง จุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั้ง จุดชมวิว ผลไม้ต่างๆ ที่เห็นอยู่ข้างทาง พร้อมทั้งอธิบายถึงความสำคัญ ของจุดชมวิวต่างๆไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวที่สนามบินข้อมูลต่างๆให้แก่นักท่องเที่ยวฟังซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายอับดุล ฮาซัน นั้นไม่มีใบอนุญาตมัคคุเทศก์แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนพนักงานอีกคน นายอาร์ค อายุ 34 ปี สัญชาติ เมียนมากำลังทำความสะอาดรถ ATV และยกอุปกรณ์นิรภัย อยู่ภายในโรงเก็บรถ ATV เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้ทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทำงานของนายจ้างและลักษณะงานหลักที่ทำให้นายทะเบียนทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันเข้าทำงานกับนายจ้าง”
ส่วนนางสาวนุจรีย์ภรณ์ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฐานความผิด ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เป็นนายจ้างไม่แจ้งคนต่างด้าวเข้าทำงานให้นายทะเบียนทราบภายใน 15 วันนับแต่วันที่จ้าง
ก่อนควบคุมตัวทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวนสภเกาะพะงัน ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับตัวเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตนั้น มักจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับ การท่องเที่ยวของประเทศ และเสียชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว เนื่องจาก จะไม่มีกฎหมายคุ้มครองนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ และข้อมูล หรือความปลอดภัยนั้นไม่ได้ผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้เป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





