fbpx
Home
|
ข่าว

“สิงห์”ดุตบ”ราชัน”2-0ลิ่งชิงยูฟ่าชปล.ดวลเรือ

Featured Image
เชลซี ไม่พลาดเดินหน้าบดเอาชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 2-0 รวมสองนัดชนะ 3-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ที่ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง เชลซี พบ เรอัล มาดริด โดยผลนัดแรกนั้น “สิงห์บลูส์” บุกไปเสมอกับ “ราชันชุดขาว” 1-1

โธมัส ทูเคิ่ล เพิ่งพา เชลซี เก็บชัยเหนือ ฟูแล่ม 2-0 เกมนี้ไม่มีปัญหาในการจัดทัพเท่าไหร่ แนวรุกใช้สามประสานทั้ง เมสัน เม้าน์ท, ไค ฮาแวร์ทซ์ และ ติโม แวร์เนอร์

ส่วน ซีเนอดีน ซีดาน นายใหญ่ เรอัล มาดริด ฟอร์มในลีกไล่อัด โอซาซูน่า 2-0 ยังได้ลุ้นแย่งแชมป์กับแอต.มาดริดในลีก ส่วนเกมนี้ได้ เซร์คิโอ รามอส หายเจ็บกลับมาบัญชาเกมรับ ขณะที่แนวรุกวันนี้ส่ง เอแด็น อาซาร์ ลงเป็นตัวจริงลงดวลกับอดีตต้นสังกัด โดยประสานงานกับ คาริม เบนเซม่า และวินิซิอุส จูเนียร์

ผลปรากฏว่า เริ่มเกมมาได้ 18 นาที สิงโตน้ำเงินคราม พลาดโอกาสออกนำ เมื่อทาง เบน ชิลเวลล์ ครอสมาให้ ทิโม แวร์เนอร์ ยิงเข้าไปแต่ไม่ได้เพราะล้ำหน้า นาทีที่ 28 เชลซี ออกนำ 1-0 เอ็นโกโล ก็องเต้ ไหลมาให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ หลุดไปยกบอลข้าม ติโบต์ กูร์กตัวส์ ลอยไปชนคาน ทิโม แวร์เนอร์ ตามไปโขกซ้ำไม่พลาด ราชันชุดขาว พลาดโอกาสตีเสมอในนาที 36 หนนี้จาก เบนเซม่า คนเดิมที่โขกติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ เเละ จบครึ่งแรก เชลซี ขึ้นนำ เรอัล มาดริด 1-0

ครึ่งหลังเป็นเจ้าบ้านที่หาโอกาสได้ดีกว่า นาทีที่ 48 ไค ฮาเวิร์ตซ์ ขึเนโขกแต่บอลชนคานอย่างจังหวะ จากนั้นในนาทีที่ 53 เชลซี มีโอกาสนำห่างอีกครั้ง หนนี้เป็น ทิโม แวร์เนอร์ ไหลมาให้ เมสัน เมาท์ หลุดเข้าเขตโทษทางขวาแต่จังหวะยิงดันหวดข้ามคาน นาทีที่ 66 สิงโตน้ำเงินคราม สวนกลับเร็ว ทิโม แวร์เนอร์ ลากจี้ขึ้นมาก่อนไหลมาให้ เอ็นโกโล ก็องเต้ ยิงติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เจ้าบ้านได้ประตูที่สองนาที 85 จากจังหวะที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตัดบอลหน้าเขตโทษมาดริดก่อนไหลให้ คริสเตียน พูลิซิช ดึงจังหวะก่อนตบเข้ากลางให้ เมสัน เมาท์ ชาร์จจ่อ ๆ ไม่พลาด เชลซี นำ 2-0 สกอร์รวม 3-1

จบเกม เชลซี เอาชนะ เรอัล มาดริด 2-0 รวมสองนัด สิงห์บลูส์ ชนะ 3-1 เข้าไปชิงชนะเลิศกับ แมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ที่ประเทศตุรกี

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube