”อิชิอิ” พ่ายศึกนอกเกม เมื่อระบบคิดสวนทางสมาคม
30 นัด 53% ชนะไม่พอ ถ้าแนวทางไม่ตรง เพราะฟุตบอลทีมชาติไทยตอนนี้ไม่ได้เล่นแค่ลูกบอล แต่ด้วยอำนาจและแนวคิด
เสียงระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังขึ้นอีกครั้งในบ้าน “ช้างศึก” สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยุติสัญญากับ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่ผ่ามา หลังการประชุมร่วมกับฝ่ายเทคนิคที่มี ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน, ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และ เอกพล พลนาวี นำทีมพูดคุยก่อนลงมติ “แยกทาง” ด้วยเหตุผลชัด แนวทางไม่ตรงกัน
“ไม่ใช่เรื่องของผลงานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของวิธีคิด วิธีทำทีม ที่ไม่สอดคล้องกัน” แหล่งข่าวฝ่ายเทคนิค กล่าวหลังการประชุม
เส้นทางจาก “ความหวังใหม่” สู่ “ทางแยก”
อิชิอิ เข้ามารับงานในเดือนธันวาคม 2023 เขาคือโค้ชญี่ปุ่นที่เคยสร้างชื่อในไทยลีก และได้รับเครดิตเรื่องระเบียบวินัยและระบบการเล่นที่ชัดเจน แต่ในระดับทีมชาติเส้นทางกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด
ผลงานโดยรวม ชนะ 16 จาก 30 นัด หรือคิดเป็น 53% แม้ไม่เลวร้าย แต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าประทับใจ โดยเฉพาะ “จุดตัดสำคัญ” ในปี 2024 เมื่อไทยพลาดแชมป์ อาเซียน คัพ 2024 ด้วยการแพ้เวียดนามทั้งสองนัดในรอบชิงฯ จุดนั้นเองที่ความเชื่อมั่นเริ่มสั่นคลอน
จุดแตกหัก ความเห็นไม่ลงรอยกับฝ่ายเทคนิค
ฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ได้กำหนดแนวทางสำหรับการเตรียมทีมสู่ เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก โดยเน้นชัดว่า “ต้องใช้ผู้เล่นที่ดีที่สุด” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคืออิชิอิเลือกที่จะ “สวนทาง” กับคำแนะนำ
เขา ไม่ใส่ชื่อสามแข้งแกนหลัก ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น และธีรศิลป์ แดงดา ในบัญชีลงทะเบียนนักเตะกับ AFC ทั้งที่ฝ่ายเทคนิคเสนอให้ใส่ชื่อเผื่อไว้ เพราะ “ไม่มีข้อจำกัดด้านจำนวน”
ฝ่ายเทคนิคยอมรับว่า “ไม่สามารถแทรกแซงได้” แต่เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็น “รอยร้าวทางแนวคิด” ที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ทีมจะเก็บชัยเหนือ ศรีลังกา 1-0, ก่อนพ่าย เติร์กเมนิสถาน 1-3 และกลับมาชนะ ไชนีสไทเป สองนัดรวด 2-0, 6-1 ตามลำดับ ผลลัพธ์อาจดูดีบนกระดาษ แต่ในมุมของฝ่ายเทคนิค “รูปแบบการเล่น” และ “โครงสร้างทีม” ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
เช้าวันแตกหัก
เช้าวันที่ 21 ตุลาคม 2568 อิชิอิเดินทางเข้าที่ทำการสมาคมฯ ตามคำเรียก เพื่อพูดคุยทบทวนแนวทาง แต่สุดท้าย การพูดคุยนั้นกลายเป็น “บทสรุปสุดท้าย” ของเขากับทีมชาติไทย หลังออกจากห้องประชุม ข่าว ยกเลิกสัญญา ก็ถูกเผยแพร่ในเวลาไม่นาน
สมาคมฯ แถลงอย่างเป็นทางการว่า “ขอขอบคุณ มาซาทาดะ อิชิอิ สำหรับความทุ่มเทในการยกระดับทีมชาติไทย และขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางต่อไป”
ฟาก อิชิอิ โต้ผ่านสตอรี่ ยังไม่ได้บอกจะยกเลิกสัญญา โดนเรียกไป บอกจะเปลี่ยนโค้ช แต่บอกไปว่า ”ไว้ค่อยคุย“
“วันนี้เวลา 10:00 น. ผมได้รับการเรียกจากสมาคมฟุตบอลไทยให้ไปพูดคุยเรื่อง “การทบทวนเกมที่แข่งกับไต้หวัน”
หลังจากพูดคุยเรื่องนั้นเสร็จ ทางสมาคมก็ได้แจ้งกับผมอย่างกะทันหันว่า “จะยกเลิกสัญญาในวันนี้”
เหตุผลคือ “อยากเปลี่ยนทีมสตาฟฟ์ของทีมชาติในแต่ละรุ่น”
ผมยังไม่สามารถจัดการความรู้สึกได้ จึงตอบเพียงว่า “ไว้คุยกันอีกทีในโอกาสหน้า” และไม่ได้ลงนามในเอกสารใด ๆ
จากนั้นในช่วงบ่ายก็มีการประกาศยกเลิกสัญญาออกมา
ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้
สำหรับทุกคนที่คอยสนับสนุนทีมชาติไทยมาตลอด ผมขอขอบคุณจากใจจริง
หลังพายุ… ใครจะกุมบังเหียนช้างศึกคนต่อไป
ฝ่ายเทคนิคเตรียมประชุมเร่งด่วนเพื่อคัดเลือกกุนซือคนใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เสียจังหวะก่อนโปรแกรมสำคัญเดือนพฤศจิกายน อุ่นเครื่องกับสิงคโปร์ 13 พ.ย. และ บุกเยือนศรีลังกา 18 พ.ย. ในศึกเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก
ชื่อของโค้ชชาวไทยและต่างชาติหลายรายเริ่มถูกพูดถึง แต่สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นที่สุดอาจไม่ใช่ชื่อของ “ใคร” หากคือ “แนวทางที่ชัดเจน” ของทีมชาติไทยหลังยุคอิชิอิ
ปิดฉาก “อิชิอิ” เปิดฉากบทใหม่ของช้างศึก จากความแตกต่างทางแนวคิด อาจเป็นบทเรียนสำคัญของวงการฟุตบอลไทย ว่าการสร้างทีมชาติไม่ได้วัดแค่ “ผลลัพธ์” ในสนาม แต่อยู่ที่ “ทิศทาง” ที่ทุกฝ่ายต้องมองไปทางเดียวกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
