Home
|
ข่าว

“มงกุฎเพชร” จากราชดำเนินสู่ทีมชาติไทย มุ่งเหรียญทองซีเกมส์

Featured Image

 

บนสังเวียนผ้าใบที่เต็มไปด้วยเหงื่อ เลือด และความฝัน ชื่อของ “มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า” กำลังถูกพูดถึงอย่างร้อนแรงในวงการกำปั้นไทย เขาคือนักชกที่ไม่ได้มีเพียงแค่ฝีมือ แต่ยังมี “หัวใจนักสู้” ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา

 

อริศรา นุ่นเอียด หรือ มงกุฎเพชร เพชรพราว สาวน้อยวัย 19 ปี เจ้าของฉายา “ราชินีแดนใต้” จากจังหวัดพัทลุง เกิดและเติบโตในครอบครัวเรียบง่ายจากภาคใต้ เขาเริ่มรู้จักกับกีฬามวยตั้งแต่วัยเด็ก ผ่านเวทีงานวัดเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์ ก่อนจะค่อย ๆ ขัดเกลาฝีมืออย่างจริงจังในค่ายมวยท้องถิ่น ด้วยความมุ่งมั่นและหัวใจนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ ทำให้เขาก้าวข้ามอุปสรรคมากมายจากบ้านเกิด สู่การเดินทางตามความฝันในเมืองใหญ่ และเริ่มขัดเกลาฝีมือจากเด็กน้อยสู่นักชกระดับแถวหน้า

 

ด้วยร่างกายเล็ก  มงกุฎเพชร เคยถูกสบประมาทว่า “ชกไปก็คงไปไม่ไกล” แต่ทุกคำพูดกลับกลายเป็นพลัง เขาซ้อมหนักกว่าคนอื่น 2–3 เท่า จนกระทั่งสามารถก้าวขึ้นไปคว้า แชมป์เวทีราชดำเนิน ได้สำเร็จ ด้วยการโชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทยครบเครื่อง เตะคม หมัดไว เข่าโหด และจังหวะการเข้าทำที่เฉียบขาด ชัยชนะครั้งนั้นไม่เพียงแค่ทำให้เขามีเข็มขัดแชมป์เท่านั้น แต่ยังทำให้แฟนมวยเริ่มจดจำชื่อ “มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า” ได้อย่างชัดเจน

 

ด้วย ฟอร์มอันร้อนแรงทำให้เขาถูกเรียกติดทีมชาติไทยชุดสู้ศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคมนี้ การก้าวขึ้นสู่ทีมชาติถือเป็นความฝันสูงสุดของนักมวยไทยแทบทุกคน สำหรับ มงกุฎเพชร มันคือรางวัลแห่งความมุ่งมั่นและความเสียสละ

 

แม้วันนี้เขาจะได้ก้าวขึ้นมาสวมเสื้อทีมชาติแล้ว แต่ มงกุฎเพชร ยังไม่หยุดฝัน เขาตั้งเป้าหมายคว้าเหรียญทองซีเกมส์ และต่อยอดไปถึงเอเชียนเกมส์ รวมถึงเวทีนานาชาติที่สูงขึ้น เพื่อเป็นตัวแทนมวยไทยไทยที่ก้องโลก

 

ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มงกุฎเพชร ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในความหวังเหรียญทองของไทยในครั้งนี้

 

ทำไม “มงกุฎเพชร” ถึงน่าจับตา  มงกุฎเพชร ถือเป็นนักมวยที่ก้าวจากเวทีอาชีพสู่สังเวียนทีมชาติได้อย่างน่าประทับใจ จุดเด่นของเขาคือ

 

-พลังหมัดและจังหวะโจมตีที่ดุดัน  แม้จะอยู่ในรุ่นเล็ก แต่พลังหมัดและความเร็วของมงกุฎเพชรถือว่าอันตรายเกินตัว

-ประสบการณ์บนเวทีราชดำเนิน  การเป็นแชมป์เวทีใหญ่มอบทั้งความมั่นใจและการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ระดับสูงมาแล้วมากมาย

-สภาพจิตใจแกร่ง ชื่อ “มงกุฎเพชร” มักถูกพูดถึงในแง่การไม่ยอมแพ้ พลิกสถานการณ์กลับมาได้เสมอ

 

 

 

อย่างไรก็ตาม การก้าวสู่ระดับนานาชาติไม่ใช่เรื่องง่าย คู่ชกจากชาติย่านอาเซียนอย่าง เมียนมา, เวียดนาม และกัมพูชา ต่างพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็ว และขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งเชิงกายภาพ มงกุฎเพชรจึงต้องระวัง 3 เรื่องหลักคือ

 

 

-การป้องกันและเกมรับ  ศัตรูในระดับทีมชาติไม่ใช่จะพลาดให้โจมตีง่าย ๆ การ์ดต้องรัดกุมมากกว่าที่เคย

-การยืนระยะ  มวยสมัครเล่นใช้ระบบการให้คะแนนที่วัดกันจังหวะต่อจังหวะ การยืนระยะและควบคุมเกมจะสำคัญกว่า “การน็อกเอาต์”

-การปรับสไตล์ให้เข้ากับกติกา  จากมวยอาชีพสู่มวยสมัครเล่น มีรายละเอียดกติกาต่างกันพอสมควร หากปรับตัวเร็วจะได้เปรียบอย่างมาก

 

 

 

สำหรับทีมชาติไทย “มงกุฎเพชร” ถือเป็นความหวังเหรียญทองในรุ่น 45 กก. หยิง เพราะด้วยประสบการณ์และความมั่นใจที่สั่งสมมา หากสามารถปรับสไตล์เข้ากับระบบการแข่งขันซีเกมส์ได้ดี เขามีศักยภาพจะพุ่งสู่โพเดี้ยมสูงสุด และกลายเป็นขวัญใจคนไทยในบ้านเกิด

 

การติดธงทีมชาติไทยครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงโอกาสพิสูจน์ฝีมือของ มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า แต่ยังเป็นการยกระดับชื่อเสียงจากแชมป์เวทีราชดำเนิน สู่การเป็น “นักชกทีมชาติ” อย่างเต็มภาคภูมิ หากโชว์ฟอร์มได้สมศักดิ์ศรี เชื่อว่าซีเกมส์ครั้งที่ 33 นี้ เราอาจได้เห็นเพชรแท้ส่องประกายบนเวทีนานาชาติอย่างแท้จริง

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube