ศึกสองล้อทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” พีระพล นักปั่นจากทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล มาแรงต่อเนื่องคว้าแชมป์สเตจ 3 พร้อมขึ้นเป็นผู้นำเวลารวมได้สวม “เสื้อเหลือง” รางวัลนักปั่นยอดเยี่ยมอาเซียนได้ “เสื้อม่วง” และรางวัลเจ้าภูเขาได้ “เสื้อลายจุด” ทั้งหมด 3 ตัว ส่วน “ตุลธร โสสลาม” นักปั่นทีมชาติไทยคว้ารางวัลนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมไปครอง
การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1เมษายน -10 เมษายน 2567 แข่งขันในเส้นทางจังหวัดพิษณุโลก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, กำแพงเพชร, พิจิตร, นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ระยะทางรวม 1,242.50 กิโลเมตร
สำหรับพิธีเปิดได้รับเกียรติจากนายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย มาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยพลเอก เดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอเอฟซี) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมในพิธี การแข่งขันถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS และช่องยูทูบ Thai PBS มียอดผู้ชมรวมกันกว่า 330,000 วิว
การแข่งขันสเตจที่3 เริ่มข้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ผ่านอำเภอกงไกรลาศ อำเภอวังทอง และเข้าเส้นชัยที่บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งหมดระยะทาง 128.30 กิโลเมตร
การแข่งขันในช่วงแรกนักปั่นเกาะกลุ่มกันมา เมื่อเข้าสู่ 20 กิโลเมตรสุดท้าย ตุลธร โสสลาม นักปั่นทีมชาติไทยปั่นนำขึ้นมาจากการเกาะกลุ่มได้สำเร็จ เมื่อมาถึงช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้าย ซึ่งเป็นเนินสูงชัน นักปั่นหลายคนปั่นขึ้นไม่ไหว ทำให้ต้องลงจูงรถขึ้นไปแทน แต่ทางด้านของ “พีระพล ชาวเชียงขวาง” อาศัยช่วงนี้ปั่นแซงขึ้นมาได้ พร้อมกับ “เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน” นักปั่นเยอรมนีจากทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ และเมื่อถึง 100 เมตรสุดท้ายก็เป็นทางด้านของ “พีระพล” ที่ปั่นหนีเข้าเส้นชัยและคว้าแชมป์สเตจที่ 3 ไปครองโดยทำเวลาได้ที่ 3.11.12 ชั่วโมง ห่างจากอันดับสองอย่าง เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน ที่ทำเวลาไปได้ 3.11.14ชั่วโมง และอันดับ 3 คือ ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ที่ทำเวลาไปได้ 3.11.23 ชั่วโมง
หลังจากจบการแข่งขันในสเตจที่ 2 พลเอกแดชา ได้เข้าพบนักกีฬาและแจ้งเรื่องเงินอัดฉีดพร้อมบอกนักกีฬาทุกคนอย่าประมาณ เนื่องจากการแข่งขันจักรยานทางไกลต้องใช้ความพยายามในการคว้าแชมป์เพราะมีผลในเรื่องของคะแนน
หลังจาการแข่งขันเสตจที่ 3 จบลง ด้านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มอบเงินรางวัลอัดฉีดนักกีฬาทีมไทยที่ได้รับรางวัล ในรางวัลต่างๆ รางวัลละ 30,000 บาท
“พลเอกเดชา” กล่าวว่า “การแข่งขันในสเตจที่ 4 ผมได้บอกโค้ชว่าให้สู้อย่างเต็มที่ เรามาแข่งขันในแผ่นดินของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เราต้องสวมหัวใจนักสู้ และต้องวางแผนให้ดี ในสภาพอากาศที่ร้อนต้องเตรียมการให้พร้อม เงินอัดฉีดก็ต้องเตรียมให้ถึง ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยส่งกำลังใจมาเชียร์นักปั่นไทยในอีก 3 สเตจที่เหลือ รวมทั้งการแข่งขันประเภททีมหญิงรวม 3 วัน ขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวไทยที่อยู่สองข้างทางออกมาให้กำลังใจนักปั่นไทย ส่วนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้ชมผ่านการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งเกมการแข่งขันสนุกทุกวันสู้กันอย่างสุดหัวใจทุกวัน”
ด้านของ “พีระพล” กล่าวหลังจากคว้าแชมป์สเตจที่ 3 สำเร็จว่าดีที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ซึ่งที่ผ่านมาเราก็สู้กันอย่างเต็มที่ ต้องขอบคุณนายกสมาคมกีฬาปั่นจักรยานฯ ที่มาให้กำลังใจพร้อมให้เงินอัดฉีด และชี้จุดบกพร่องให้แก้ไข และก่อนการแข่งขันก็มีการมาสำรวจเส้นทางก่อนอยู่แล้วเลยทำให้สามารถปรับตัวได้ดีและชนะการแข่งขันในที่สุด
ด้านโค้ชผู้ฝึกสอน “วิสุทธิ์ กสิยะพัท” ผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล กล่าวว่า การแข่งขันแต่ละสเตจมีความยากต่างกันแต่เนื่องจากการเตรียมตัวมาดีของทุกๆคนในทีมทำให้สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ และขอขอบคุณพี่น้อชาวไทยที่ให้กำลังใจนักปั่นไทย พวกเราจะทำให้เต็มที่เพื่อคว้าแชมป์มาฝากพี่น้องชาวไทย
ส่วนพิธีมอบรางวัลจะมอบที่สนามโรงเรียนรักไทยร่มเกล้าอุปถัมภ์ ได้รับเกียรติจาก นายนิสิต สวัสดิเทพ ปลัดจังหวัดพิษณุโลกเป็นผู้นำในการมอบรางวัล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ
สรุปรางวัลจากการแข่งขัน
แชมป์สเตจที่ 3 พีระพล ชาวเชียงขวาง เวลารวม 3.11.12 ชั่วโมง
รางวัลเจ้าความเร็ว หรือ Intermediate Sprints จุดที่ 1 (IS1) และจุดที่ 2 (IS2) ตกเป็นของ เจ๋อ เย กี่ นักปั่นทีมตรังกานู ไซคลิง
รางวัลนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 3 ตุลธร โสสลาม
ตำแหน่งผู้นำเวลารวมตกเป็นของ พีระพล ชาวเชียงขวาง เวลา 10.50.45 ชั่วโมง ทำให้ได้เสื้อเหลืองมาครอง
รางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็วเป็นของ ลูคัส คาร์สเตนเซ่น นักปั่นชาวเยอรมนีจากทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ มี 29 คะแนน ได้เสื้อเขียวมาครอง
รางวัลนักปั่นยอดเยี่ยมอาเซียนเป็นของ พีระพล ชาวเชียงขวาง และได้เสื้อม่วงมาครอง
รางวัลเจ้าภูเขา (KOM) ก็ตกเป็นของ พีระพล ชาวเชียงขวาง และได้เสื้อลายจุดมาครอง
และเวลารวมประเภททีมในสเตจที่ 3 ตกเป็นของทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ ทำเวลารวมประเภททีมด้วยเวลา 32.34.12 ชั่วโมง
สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 4 วันที่ 4 เมษายน จะเริ่มเวลา 08.00 น. เส้นทางจากพระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอำเภอวังทอง ผ่านวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เข้าเส้นชัยที่พุทธอุทยานเพชบุระ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทาง 155.90 กิโลเมตร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
