fbpx
Home
|
ข่าว

“สาวไทย” ทุบ “ไต้หวัน” ประเดิมชัย เอเชียนเกมส์

Featured Image

 

 

 

ทัพวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติไต้หวัน 3-1 เซต ประเดิมเก็บ 3 คะแนน รอบแรก ในศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19

 

 

 

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งแข่งขันกันระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 7 ตุลาคม 2566 โดยรอบแรก วอลเลย์บอลหญิงไทย ถูกจับสลากอยู่กลุ่มบี ร่วมกับ ไชนีส ไทเป หรือ ไต้หวัน และ มองโกเลีย ทีมที่เป็นอันดับ 1-2 ของแต่ละกลุ่มจะได้ผ่านเข้าสู่รอบสอง

สำหรับผลงานของวอลเลย์บอลหญิงไทย เคยประสบความสำเร็จคว้า 1 เหรียญทองแดง ในเอเชียนเกมส์ 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และคว้า เหรียญเงิน ในเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย

 

สำหรับเกมในวันนี้ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ส่งผู้เล่นประกอบไปด้วย พรพรรณ เกิดปราชญ์, จรัสพร บรรดาศักดิ์,ทัดดาว นึกแจ้ง, วิภาวี ศรีทอง, อัจฉราพร คงยศ, ชัชชุอร โมกศรี, พิมพิชยา ก๊กรัมย์ และตัวรับอิสระ ปิยะนุช แป้นน้อย กัปตันทีม

 

 

เซตแรก ทีมไทย เล่นตามระบบของตัวเอง ทำแต้มอย่างต่อเนื่องชนะเซตแรก 25-18 ไทยนำ 1-0

 

 

เซตสอง ไชนีส ไทเป พยายามแก้เกมเพื่อสู้กับทีมไทย เป็นฝ่ายทำแต้มขึ้นนำ แม้ว่า ทีมไทย จะไล่ตามตีเสมอและดิวซ์ แต่คู่ต่อสู้จบได้แน่อนชนะไป 26-24 ตามเสมอ 1-1 เซต

 

 

เชตสาม ทีมไทย กลับเข้าสู่เกมของตัวเองขึ้นตบหัวเสาสลับบอลสผสมเอาชนะไป 25-12 นำ 2-1 เซต

 

 

เซตสี่ เกมรุกยังเป็นของ ทีมไทย แม้ ไต้หวัน จะแก้เกมสู้ แต่สุดท้ายต้านความแข็งแกร่งของสาวไทยไม่ไหวแพ้ไป 13-25

 

 

สรุปการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิงไทย ประเดิมเอาชนะ ไต้หวัน 3-1 เซต ด้วยสกอร์ 25-18, 26-24, 25-12 และ 25-13 ประเดิมเก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จ

 

 

ทั้งนี้ ในการแข่งขันนัดต่อไป วอลเลย์บอลหญิงไทย จะลงสนามพบกับ ทีมชาติมองโกเลีย นัดที่สอง รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี ที่สนามเต๋อชิง สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2566 เวลา 13.30 น. แฟนกีฬาวอลเลย์บอลสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง PPTV HD

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube