fbpx
Home
|
ข่าว

“วสพล” เปรียบ “โปรไลเซนส์” เทียบ ป.เอก ศาสตร์ลูกหนังขั้นสุด

Featured Image
วสพล แก้วผลึก ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปรียบคอร์ส โปร ไลเซนส์ ว่าเป็นเหมือนปริญญาเอก ที่จะช่วยพัฒนาตัวเองและวงการฟุตบอลไทย

 

 

สำหรับ วสพล มีประสบการณ์เป็นล่าม ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ฝึกสอน ระดับ เอ ไลเซนส์ และตอนนี้ก็เป็นผู้ช่วยโค้ชของ มาโน โพลกิ้ง อย่างเต็มตัวในทีมชาติไทยชุดใหญ่

 

“อาชีพโค้ชของผมเดินทางมาถึงคอร์สสุดท้าย ก่อนที่จะจบหลักสูตรทั้งหมด โปร ไลเซนส์ คือ เป้าหมายสูงสุดในการเป็นโค้ช ก็เป็นเกียรติที่ได้มาร่วมอบรมกับโค้ชคุณภาพมากมายในไทย”

 

“คอร์สนี้มีหลายท่าน ที่มีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอนจากสโมสรชั้นนำของไทย การได้มาอบรมครั้งนี้ก็หวังจะได้ความรู้และนำมาแชร์กัน รวมถึงเรื่องประสบการณ์ ที่เราจะแบ่งกันตลอดการอบรม”

 

“ที่ผ่านมาผมก็ได้โอกาสทำงานกับทีมชาติไทย ในฐานะผู้ช่วยผู้ฝึกสอนมาเป็นเวลา 2 ปี กับมาโน โพลกิ้ง และกับหลายๆ สโมสร ทุกท่านล้วนมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป จะเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในตอนนี้”

 

“โปร ไลเซนส์ เป็นหลักสูตรสุดท้าย เหมือนปริญญาเอกที่เราต้องจบให้ได้ ซึ่งจะช่วยให้เราพร้อมเป็นเฮดโค้ชในทุกสถานการณ์ในอนาคต ก็หวังว่าเราจะผ่านการอบรมครั้งนี้ และจบคอร์สนี้ได้สำเร็จ”

 

“คอร์สนี้เป็นโปร ไลเซนส์ ครั้งที่ 3 ของประเทศไทยก็ต้องขอบคุณสมาคมฯ ที่จัดอบรมหลักสูตรใหม่ หวังว่าจะได้ประสบการณ์ ความรู้เพื่อพัฒนาตัวเองและพัฒนาฟุตบอลไทยในอนาคต ส่วนเส้นทางการเป็นผู้ฝึกสอนในอนาคตนั้นก็อยู่ที่โอกาส”

 

สำหรับ ประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอน ระดับ โปรไลเซนส์ จำนวน 39 คน โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การบริหารของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จัดให้มีการอบรมโปร ไลเซนส์ ครั้งนี้ นับเป็น รุ่นที่ 3 โดยจะแบ่งช่วงเวลาการอบรมออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 – 12 มิถุนายน 2566, ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 5 – 24 สิงหาคม 2566, ช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 4 – 13 พฤศจิกายน 2566 และช่วงที่ 4 ระหว่างวันที่ 5 – 16 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube