เชลซี พลิกสถานการณ์จากโดนนำไวต้นเกมมาได้ 2 ประตูรวด ทำให้เบียดชนะ ดินาโม ซาแกร็บ 2-1 ตีตั๋วผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่ม
ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม อี นัดสุดท้าย คืนวันพุธที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เชลซี เพิ่งแพ้ยับให้ ไบรท์ตัน ส่วนถ้วยนี้เข้ารอบไปแล้วเพียงแต่จบแชมป์กลุ่มหรือไม่เท่านั้น เกรแฮม พ็อตเตอร์ ขนผู้เล่นชุดใหญ่ “สเตอร์ลิ่ง-โอบาเมยอง” นำทัพดวล ดินาโม ซาเกร็บ ที่มีสิทธิ์ซิวที่สามไปเพลย์ออฟในศึกยูโรปาลีก
ผลปรากฏว่า เชลซี เอาชนะ ซาเกร็บ ไป 2-1 โดยเกมนี้ ซาเกร็บ นำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 7 จาก บรูโน เพตโควิช จากนั้น เชลซี มายิงแซง 2 ประตูจาก ราฮีม สเตอร์ลิง นาทีที่ 18 และ เดนิส ซากาเรีย นาทีที่ 30
ทั้งนี้ จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน เข้ารอบ 16 ทีม ในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วน ซาเกร็บ มี 2 คะแนนเท่าเดิม จบอันดับ 4 บ๊วยของกลุ่ม ตกรอบไป ส่วนอีกทีมที่เข้ารอบ 16 ทีม คือ เอซี มิลาน มี 10 คะแนน ขณะที่ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มี 6 คะแนน ได้อันดับ 3 ไปเล่นเพลย์ออฟ ยูโรปาลีก
สรุป 16 ทีมที่ได้ไปต่อในรอบน็อกเอาต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2022/23
แชมป์กลุ่ม
นาโปลี, ปอร์โต้, บาเยิร์น มิวนิค, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, เชลซี, เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เบนฟิก้า
รองแชมป์กลุ่ม
ลิเวอร์พูล, คลับ บรูช, อินเตอร์ มิลาน, แฟร้งค์เฟิร์ต, เอซี มิลาน, แอร์เบ ไลป์ซิก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
