ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ แซงชนะ ไอน์ทรัคท์ แฟรงเฟิร์ต ที่เหลือ 10 คน 3-2 แซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม ดี
การเเข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ 12 ตุลาคม 2565 เป็นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มของ กลุ่ม ดี นัดที่ 4 ระหว่างเจ้าบ้าน ทอตแน่ม เปิด ทอตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต
สเปอร์ส วาง ริชาร์ลิซอน, เอแมร์ซอน รอยัล และ เคลม็องต์ ลองเล่ต์ กลับมาเป็นตัวจริง ดร็อปอีฟส์ บิสซูม่า, แมตต์ โดเฮอร์ตี้ และ เบน เดวิส ไปเป็นตัวสำรอง นอกจากนี้ทีมจะได้ ลูคัส มูร่า หายเจ็บกลับมาพร้อมให้เรียกใช้งานด้วย
ส่วนแฟรงเฟิร์ตเปลี่ยน 1 ตำแหน่งจากนัดล่าสุด ให้คริสโตเฟอร์ เลนซ์ แทน อันสการ์ คนาฟฟ์ ที่เจ็บ และได้ มาริโอ เกิทเซ่ กลับมานั่งเป็นตัวสำรอง
ก่อนเกมจะเริ่ม สเปอร์ส จัดพิธีอาลัยให้กับ ปิเอโร เวนโตรเน่ โค้ชฟิตเนสคู่บุญ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่เสียชีวิตด้วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ผลปรากำว่า เป็นทาง อินทรีแดงดำ ออกนำก่อน 1-0 ในนาที 14 จากไดจิ คามาดะ ยิงไม่เหลือ แต่ทาง ไก่เดือยทอง ตีเสมอ 1-1 ในนาที 20 จากผลงาน แฮร์รี่ เคน แทงเข้าช่องอย่างสวย ซน ฮึง-มิน หลุดไปแปด้วยขวาส่งบอลผ่าน เควิน ทรัปป์ เสียบตาข่าย
สเปอร์ส แซงนำ 2-1 ในนาที 28 โดยเป็นจังหวะปัญหา แฮร์รี่ เคน ลากเข้าเขตโทษก่อนโดน คริสเตียน ยาคิช กระแทกล้มลงไป ซึ่งบรรดาผู้เล่นทีมเยือนมองว่ากองหน้าเจ้าบ้านพยายามพุ่งล้ม แต่ วีเออาร์ ส่งสัญญาณให้ผู้ตัดสินไปดูจอข้างสนามก่อนกลับมาให้จุดโทษ ไก่เดือยทอง
แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่ยิงไปทางขวามือตนเองแม้ทาง เควิน ทรัปป์ พุ่งถูกทางแต่บอลแรงเสียบตาข่ายให้แฟน สเปอร์ส เฮลั่นสนาม
สกอร์เป็น 3-1 ในนาที 36 ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก ยกจากทางขวามากลางประตู ซน ฮึง-มิน วอลเล่ย์ด้วยซ้ายส่งบอลเสียบตาข่ายแบบสุดสวย
เล่นไปถึงนาที 60 ทีมเยือนเหลือ 10 คน ตูต้า ไปทำฟาวล์ ซน ฮึง-มิน ส่งผลให้โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต ไล่มา 2-3 ในนาที 87 จากเตะมุมทางซ้าย มาริโอ เกิตเซ่ เปิดเข้าทาง ฟาริด อาลีดู โขกเสียบตาข่าย
จบเกม สเปอร์ส ชนะ 3-2 ทำให้ ไก่เดือยทอง นำจ่าฝูงมี 7 คะแนนจาก 3 เกม ส่วน แฟร้งค์เฟิร์ต มี 4 แต้ม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
