พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย u17 เผยต้องพร้อมสำหรับทุกเกม ตั้งเป้าเก็บสามแต้มต่อเนื่องเพื่อโอกาสในการเข้ารอบต่อไป ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย u17
วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 16.00 น. ที่สนามบายบัง เมืองพูโถ ประเทศเวียดนามฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ลงฝึกซ้อมต่อเนื่องหลังเอาชนะเนปาลมาได้ 3-0 ในเกมแรก เพื่อเตรียมพร้อมก่อนพบทีมชาติไต้หวัน ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุ ไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก นัดที่สอง
พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน นำทัพช้างศึกจูเนียร์ลงฝึกซ้อมโดยพร้อมเพรียงขาดเพียง กิติพัฒน์ บุญด้วง ที่มีอาการบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวในช่วงต้นเกม การฝึกซ้อมครั้งนี้เน้นไปที่ฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมสำหรับเกมวันพรุ่งนี้ และฝึกซ้อมวิธีการที่จะใช้ในการเล่นกับไต้หวัน ใช้ฝึกซ้อมเวลา 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
ภายหลังการฝึกซ้อม พิภพ อ่อนโม้ เฮดโค้ชทีมช้างศึกจูเนียร์ เปิดเผยว่า “เราต้องพร้อมสำหรับทุกเกม ถึงแม้จะต้องเล่นแบบวันเว้นวันแต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างเพราะทุกทีมก็อยู่ในเงื่อนไขเดียวกัน”
“เมื่อวานเรามีเกม และมีผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บด้วย วันนี้เราพยายามให้นักเตะฟื้นฟูร่างกายเพื่อกลับมาให้เร็วที่สุด ซึ่งการพักผ่อนที่เพียงพอเป็นเรื่องสำคัญ”
“ในส่วนของอาการบาดเจ็บของ ต้นน้ำ (กิติพัฒน์ บุญด้วง) ซึ่งเป็นนักเตะกำลังหลักของเราตั้งแต่ชิงแชมป์อาเซียน ก็น่าเสียดายที่เขาเจ็บ แต่นักเตะที่เรามีก็สามารถทดแทนกันได้ อย่างไรก็ตามเรามีทีมแพทย์ที่ช่วยดูแลน้อง อาการบาดเจ็บถึงจะไม่รุนแรงมากและน่าจะหายทันเกมกับเวียดนาม”
“ส่วนความพร้อมในเกมกับไต้หวัน เรามีทีมงานที่ช่วยสเกาต์วิธีการเล่นของเขา ก่อนทำความเข้าใจกับน้องๆ นักเตะถึงแนวทางการเล่นของเราที่จะพบกับไต้หวัน แต่ก็ได้กำชับน้องๆ ทุกคนจะต้องไม่ลืมที่จะโฟกัสตัวเอง”
“ต้องขอบคุณ น้องๆ ทุกคนตั้งใจทำเพื่อชาติ นั้นคือสิ่งที่ผมสัมผัดได้ แน่นอนเกมต่อไปเราต้องเก็บสามแต้มให้ได้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบต่อไป ฝากเป็นกำลังใจให้นักเตะทีมชาติไทยด้วยครับ” สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของทีมชาติไทยจะพบกับ ไต้หวัน ที่ เวียต ตรี สเตเดียม วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 16.00 น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
