fbpx
Home
|
ข่าว

”เยอรมัน” พลิกพ่าย ”ฮังการี” คารัง 1-0 หมดลุ้นเข้ารอบ

Featured Image
เยอรมัน พลิกล็อกแพ้ ฮังการี คารังตัวเอง 1-0 ถือเป็นความพ่ายแพ้เกมแรกนับตั้งแต่ ฟลิค เข้ามาคุมทีมและยังทำให้พวกเขาหมดโอกาสในการจบจ่าฝูงของกลุ่มด้วย

 

 

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ กลุ่ม 3 นัดที่ 5 คืนวันศุกร์ที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน เปิดบ้านฉะ ฮังการี

เยอรมัน ไม่มี นอยเออร์ เฝ้าเสาเพราะติดโควิดและทำให้ สเตเก้น ได้เฝ้าเสาแทนส่วนแบ็คขวาเลือกใช้ ฮอฟมันน์ ถอยมาเล่น ส่วนปีกขวาให้เป็นหน้าที่ของ กนาบรี้

ส่วน ฮังการี ให้เด็กใหม่แบบ เคอร์เคซ ลงประเดิมตำแหน่งวิงแบ็คซ้าย ขณะที่แดนกลางส่ง นากี้ ออกสตาร์ทแทน สไตล์ส แต่แดนรุกไม่มี โรลันด์ ซัลไล

 

 

ผลปรากฎว่า ครึ่งเเรก ฮังการี ช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นด้วยการเป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 จากลูกเตะมุมที่ โดมินิก โซบอสไล เปิดให้ อดัม ซาไล วิ่งมาดีดด้วยข้างเท้าด้านนอกส่งบอลย้อยข้ามหัว มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น ก่อนเข้าเสาไกลไปอย่างเหนือชั้น

นาที 25 ฮังการี เกือบได้อีกครั้งเมื่อแนวรับเยอรมันเช็กล้ำหน้าพลาด อัตติล่า ซาไล หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนตักให้ อัตติล่า ฟิโอล่า ได้ยิง แต่ว่า แทร์ ชเตเก้น ออกมาบล็อกได้เร็ว เจ้าถิ่นรอดไปหวุดหวิด

เยอรมัน มีลุ้นจะแจ้งครั้งแรกในนาที 39 เดวิด เราม์ เปิดบอลจากซ้ายโด่งไปถึงเสาไกล โธมัส มุลเลอร์ เทคตัวโขก แต่บอลไม่ห่างตัว ปีเตอร์ กูลาชซี่ ทำให้รับได้สบาย จากนั้นจบครึ่งแรก ฮังการี บุกนำ เยอรมัน 1-0

 

 

ครึ่งหลังนาที 49 เยอรมัน มีลุ้นเมื่อ โยชัว คิมมิช เปิดฟรีคิกให้ มุลเลอร์ ได้ยิงในเขตโทษ แต่ไม่เข้ากรอบ

จากนั้นนาที 57 เจ้าถิ่นมีโอกาสอีก มุลเลอร์ จ่ายบอลให้ ติโม แวร์เนอร์ ซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ยังไม่ดีพอที่จะผ่านมือ ปีเตอร์ กูลาชซี่

ท้ายเกมนาที 86 ฮังการี เกือบได้เพิ่มเมื่อ ลาสซ์โล่ ไคลน์ไฮส์เลอร์ ได้หลุดไปยิงด้วยขวา แต่ว่า มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น เซฟเอาไว้ได้

จากนั้นจบเกม ฮังการี บุกชนะ เยอรมัน 1-0 ทำให้รั้งอันดับ 1 ของกลุ่มต่อไป ด้วยการมี 10 คะแนน ส่วน เยอรมัน มี 6 คะแนนเท่าเดิม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube