กกท. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “การประยุกต์เครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา”
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การประยุกต์เครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา” โดยมี ศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถ นานา นายกสมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย, นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา และคณะผู้บริหาร ร่วมงาน ณ ห้องอวย เกตุสิงห์ อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565ที่ผ่านมา
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการ “การประยุกต์เครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา” ในครั้งนี้ เป็นการอบรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทยร่วมกับ สมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนากีฬาของชาติ
ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญโดยกำหนดนโยบายในแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา โดยมีมาตรการที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์การกีพา ทั้งในระดับนานาชาติ และระดับชาติ โดยกำหนดแนวทางในการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาให้มีคุณภาพ เพื่อสามารถให้บริการอย่างทั่วถึงในทุกระดับ โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำแผนปฏิบัติงานสอดคล้องและส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
“การดำเนินโครงการอบรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ร่วมกับ สมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย จึงมีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาและยกระดับนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและการบริการทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และรองรับอุปกรณ์ที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาได้รับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น 850 ล้านบาท
ซึ่งจะเป็นการสร้างคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการอย่างครบวงจร และพัฒนานักวิทยาศาสตร์การกีฬาให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเป็นรูปธรรม สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพทางการกีฬาของประเทศชาติต่อไป”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
