fbpx
Home
|
ข่าว

‘ขุนค้อน’ ทุบ ‘หงส์’ 3-2 เเซงขึ้นที่ 3 พรีเมียร์ลีก

Featured Image
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดบ้านยัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้ ลิเวอร์พูล 3-2 พร้อมแซงขึ้นที่ 3 ส่วนหงส์แดง ร่วงมาอยู่อันดับ 4 ศึกพรีเมียร์ลีก

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เป็นการพบกันระหว่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เปิดสนามลอนดอน สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

ฝั่งขุนค้อน เจ้าบ้านจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ปาโบล ฟอร์นาลส์, ซาอิด เบนราห์มา, จาร์รอด โบเวน ปั้นเกมรุกให้ มิเคล อันโตนิโอ ล่าตาข่าย

ทางด้านหงส์แดง ผู้มาเยือนเลือกใช้แผน 4-3-3 วาง ซาดิโอ มาเน, ดิโอโก โชต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นสามประสานในแนวรุก

ผลปรากฏว่า ครึ่งแรกมาแค่ 4 นาที เวสต์แฮม ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ปาโบล ฟอร์นัลส์ เปิดลุกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น อลิสสัน เบคเกอร์ จอมหนึบของลิเวอร์พูล ปัดบอลเข้าประตูตัวเองไป

จากนั้นนาทีที่ 32 โอกาสของลิเวอร์พูล เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ และเป็น ดิโอโก โชตา โหม่งข้ามคานออกไป

ถึงนาทีที่ 41 ลิเวอร์พูล ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะได้ฟรีคิกระยะหวังผล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ปั่นด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก เวสต์แฮม เสมอ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-1

ครึ่งหลัง นาทีที่ 50 เวสต์แฮม เกือบได้เฮ เมื่อ ปาโบล ฟอร์นัลส์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษ ดีแคลน ไรซ์ โหม่งชนคานดังสนั่น

นาทีที่ 66 เวสต์แฮม ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เมื่อ จาร์รอด โบเวน จ่ายบอลให้ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ยิงด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งผ่าน อลิสสัน เบคเกอร์ เข้าไป

และในนาทีที่ 74 กลายเป็น เวสต์แฮม ที่นำห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ จาร์รอด โบเวน เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น เคิร์ท ซูมา โหม่งเข้าไป

ถึงนาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล ไล่มาเป็น 2-3 จากจังหวะที่ ดิวอค โอริกี กระดกบอลมาพลิกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไป

หลังจากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติม จบเกม เวสต์แฮม เปิดบ้านยัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้ ลิเวอร์พูล 3-2 พร้อมแซงขึ้นที่ 3 มี 23 คะแนน ในขณะที่หงส์แดงมี 22 คะแนนเท่าเดิม อยู่อันดับ 4

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube