คุมตัวผู้ต้องหา ปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้าง ฝากขังศาล ค้านประกันตัว
คุมตัวผู้ต้องหา คดีปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว ฝากขังศาล ตำรวจคัดค้านการประกันตัว
วันนี้ (3 ก.ค 68) ที่ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเฌอพัชญ์หรือหนาว และ น.ส.นานา สองผู้ต้องหาในคดีปล้นเงิน 3.4 ล้านบาทกลางศูนย์การค้าย่านลาดพร้าว ไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อฝากขังผัดแรก โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้อง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง และเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี
โดยระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองขึ้นรถผู้ต้องขังเพื่อส่งฝากขังนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองคนอีกครั้ง คราวนี้นายหนาวเปิดใจอย่างละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่า นายเต้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย บอกกับตนว่านำเงินจำนวนนี้มาจากพวกสีเทาแล้วมารับฟอก ส่วนที่มีการซื้อขายเงินกันในวันเกิดเหตุนั้น ผู้เสียหายให้เงินเปอร์เซ็นต์ตนแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่ากลุ่มเสือปุ่นมาได้อย่างไร เพราะตนคุยกับนายเต้เพียงคนเดียว ตนไม่รู้เห็นถึงแผนการปล้นดังกล่าว ก่อนที่ น.ส.นานา จะพูดเสริมว่า วันนั้นแค่ไปรับเงินอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าผู้ต้องหาทั้งสองรู้จักกับเสือปุ่นได้อย่างไร นายหนาวปฏิเสธบอกว่าไม่ทราบ
เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองถูกนำตัวขึ้นรถคุมขัง ผู้สื่อข่าวสอบถามย้ำอีกครั้งว่า จากข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นให้การปฏิเสธและสารภาพ น.ส.นานา และนายหนาวระบุกับผู้สื่อข่าวว่าให้การปฏิเสธ เพราะทั้งคู่ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการปล้นครั้งนี้ โดย น.ส.นานา อธิบายเพิ่มว่า วันนั้นเพื่อนก็คือนายหนาวแค่ชวนให้ตนไปรับเงินด้วยเฉย ๆ ส่วนภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา ตนไม่ได้พูดคุยอะไรกับนายไอซ์และนายสอง ผู้ต้องหาที่ได้ตัวเมื่อวานนี้ แค่พูดคุยชวนกินข้าวกันทั่วไป ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้บอกว่าผู้ต้องหาที่อยู่ในระหว่างการหลบหนีอยู่ที่ไหน
และถ้าย้อนเวลากลับไปจะไปที่ห้างหรืออยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ นายหนาวตอบว่า ตอนนั้นตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าร่วมมือกันหรือเปล่า เพราะนายเต้แค่แจ้งให้พวกตนไปรับเงินที่มาจากการฟอกของนายเต้ แต่สุดท้ายนายเต้ก็กลับมาแจ้งกล่าวหาว่าพวกตนไปจี้เขา ซึ่งตนไม่ทราบว่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่าต้องถึงขั้นไปจี้เอาเงินมาหรือไม่
ด้านสองผู้ต้องหาที่ทางตำรวจได้ตัวเพิ่มเติมเมื่อวานนี้คือ นายอนันต์ชัย หรือไอซ์ และนายนนทวัฒน์ หรือสอง ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ยังควบคุมตัวไว้เพื่อสอบปากคำ โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวรคุมหน้าห้องขัง ทราบว่าทั้งสองคนไม่มีอาการเครียดหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด ยังคงกินนอนได้ตามปกติ คาดว่าจะนำตัวส่งฝากขังศาลอาญาวันพรุ่งนี้
จากการสอบถามตำรวจเบื้องต้น ทราบว่าจากการที่ผู้ต้องหาให้การอ้างว่าเงินของกลาง 3.4 ล้านบาทที่ปล้นมาเป็นเงินที่ผู้เสียหายได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ทำให้ทางตำรวจจะต้องเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงที่มาของเงินดังกล่าวว่ามาจากสีเทาผิดกฎหมายจริงหรือไม่ ส่วนจากการเข้าจับกุมนายสองที่บ้านเมื่อวานนี้ ยังไม่พบว่านายสองครอบครองอาวุธปืนแต่อย่างใด
สำหรับคดีปล้นเงิน 3.4 ล้านบาทกลางศูนย์การค้าย่านลาดพร้าว ยังคงเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 รายที่ยังอยู่ในระหว่างการไล่ล่าจับกุม คือนายวรวัฒน์ หรือปุ่น หรือเสือปุ่น // นายบอล // และนายรุ่งนิรันดร์ หรือโบ้ ซึ่งทางเป็นตำรวจยังคงไล่ล่าติดตามตัวมาดำเนินคดี คาดว่ายังคงหลบหนีในประเทศไทย
โดยจากประวัติพบว่า ทั้งสามคนนี้เคยมีประวัติตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันปล้นเงินล่อซื้อยาไอซ์จากตำรวจ มูลค่า 9 ล้านบาทและทำร้ายเจ้าพนักงาน ท้องที่ สภ.บ้านนา จ.นครยายก เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 และถูกจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว คาดว่าทั้งสามคนได้รับการประกันตัวและมาก่อเหตุอุกอาจอีกครั้ง จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทั้งสามคนได้รับการประกันตัวได้อย่างไรในคดีก่อน ทั้งที่เป็นคดีอุจฉกรรจ์





