กษ.ห่วงเกษตรกร แนะเฝ้าระวัง”แมลงศัตรูข้าว-หนอนกอข้าว”
กษ.ห่วงเกษตรกร แนะเฝ้าระวังการรุกรานแมลงศัตรูพืช “แมลงศัตรูข้าว และ หนอนกอข้าว” ช่วงฤดูปลูกข้าว
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยพี่น้องเกษตรกรและผู้ปลูกข้าว ประกาศแจ้งเตือนช่วงฤดูกาลปลูกข้าวให้เฝ้าระวัง “แมลงศัตรูข้าว และ หนอนกอข้าว” เนื่องด้วยการปลูกข้าวของประเทศไทย จะเข้าสู่ช่วงระยะแตกกอ โดยมีพื้นที่ปลูกข้าว ถึง 8,028,956 ไร่ มักจะพบการเข้าทำลายของหนอนกอข้าว ซึ่งอาจสร้างความเสียหายที่รุนแรงได้ ดังนั้น ในช่วงระยะเวลาข้าวแตกกอถือเป็นช่วงที่สำคัญ ขอให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงนาของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
โดยประเทศไทยมักพบการรุกรานพื้นที่ปลูกข้าวจากหนอนกอข้าว 4 ชนิด ได้แก่ หนอนกอสีครีม หนอนกอแถบลาย หนอนกอสีชมพู และหนอนกอแถบลายสีม่วง ซึ่งทั้ง 4 ชนิด เมื่อตัวโตเต็มวัย จะเป็นผีเสื้อกลางคืน โดยหนอนกอสีครีมเพศเมียจะวางไข่เป็นกลุ่มตามปลายใบข้าว ส่วนหนอนกอแถบลายเพศเมียจะวางไข่บริเวณโคนใบข้าว ส่วนใหญ่อยู่ใต้ใบข้าว
สำหรับหนอนกอสีชมพูเพศเมีย วางไข่เรียงเป็นแถวระหว่างกาบใบ และลำต้น ในส่วนของหนอนกอแถบลายสีม่วงเพศผู้ มองดูคล้ายมีรูปตัว Y อยู่ตรงกลางปีก ซึ่งต้นข้าวที่ถูกหนอนกอเข้าทำลาย ตัวหนอนจะเจาะเข้าทำลายกาบใบ ทำให้กาบในมีสีเหลือง หรือสีน้ำตาล จะเห็นเป็นอาการช้ำ ๆ โดยพบการทำลายหลังจากหว่านข้าวแล้วประมาณ 1 เดือนเป็นต้นไป เมื่อฉีกกาบใบดูจะพบตัวหนอน และเมื่อหนอนโตขึ้นจะเข้ากัดกินส่วนของลำต้น ทำให้เกิดอาการใบเหี่ยวในระยะแรก ใบและยอดที่ถูกทำลายจะเหลืองในระยะต่อมา ซึ่งการทำลายในระยะข้าวแตกกอนี้ ทำให้เกิดอาการยอดเหี่ยว ถ้าหนอนเข้าทำลายในระยะข้าวตั้งท้อง หรือหลังจากข้าวออกรวงจะทำให้เมล็ดข้าวลีบทั้งรวง รวงข้าวมีสีขาว เรียกอาการนี้ว่า ข้าวหัวหงอก
“ในช่วงฤดูกาลปลูกข้าว ขอให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เตรียมพื้นที่แปลงปลูกข้าว ด้วยวิธีการไถดินหลังเก็บเกี่ยว เพื่อทำลายหนอนและดักแด้ของหนอนกอข้าวที่อยู่ตามตอซัง และปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อจัดวงจรชีวิตของหนอนกอข้าว พร้อมทั้งใช้วิธีการดักล่อผีเสื้อหนอนกอข้าว (ตัวเต็มวัย) ด้วยวิธีการใช้แสงไฟเพื่อมาทำลาย ทั้งนี้ ไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป เนื่องด้วยจากใบข้าว ที่สวยจะดึงดูดให้หนอนกอชอบวางไข่ อย่างไรก็ตามหากพบว่าใบข้าวมีอาการยอดเหี่ยวมากกว่า 15% ในระยะหลังหว่านข้าวถึงแตกกอ ให้พ่นสารไซแอนทรานิลิโพรล 10% OD หรือคลอแรนทรานิลิโพรล 20% ร่วมกับไทอะมีทอกแซม 20% WG ตามอัตราที่แนะนำตามฉลาก” นายอนุกูล ระบุ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





