Home
|
ข่าว

ดีลล่มหรือคนละครึ่ง-มติDSIฟันโพยฮั้วสว.?

 

ถูกจับตา และเข้าถอดรหัสตีความโดยนัยแปรเป็น “สัญญาณ” ทางการเมืองทันที พลันเมื่อ “บอร์ดคดีพิเศษ”มีมติออกมาวันนี้ (6ก.พ.) ใน “คดีโพยฮั้วเลือกตั้งสว.” หลังจากเลื่อนออกมาจากวันที่ 25 ก.พ.

 

 

 

โดยบอร์ดคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติเสียงข้างมาก 11:4 งดออกเสียง 3 รับคดี เลือก สว. ข้อหาฟอกเงิน ไม่รับอั้งยี่โดย “รองนายกฯอ้วน-ภูมิธรรม” ที่นั่งหัวโต๊ะ แถลงด้วยว่า การรับเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) โดยขอย้ำว่า การพิจารณาคดีว่าเป็นคดีพิเศษครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาของบอร์ดกคพ.ที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากหากหลายที่ ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจจากคนใดคนหนึ่ง และ บอร์ดกคพ.ขอย้ำว่า การพิจารณาในวันนี้ไม่ใช่การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่และอำนาจของ กกต.

 

 

 

โดย องค์ประชุมมีทั้งหมด 18 คน ได้มีมติชี้ขาดในกรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคล ที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสว.2567 ตามที่ฝ่ายเลขานุการเสมอมาเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่งตาม พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ 2547 ส่วนคดีอาญาใดที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคสอง

 

 

ซึ่งต้องทำการสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบการกระทำความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.พ.ศ.2561 มาตรา 77 วรรคหนึ่ง ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกกต.ให้แจ้งกกต.ทราบเพื่อพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจต่อไป โดยไม่ต้องมีมติให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตามพ.ร.บ. การสอบสวนคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2)

 

 

 

น่าสนใจว่ามติบอร์ดคดีพิเศษวันนี้ ถูกจับตาผลที่ออกมาอันสะท้อนภาพการเมืองที่ปรากฏร่องรอยความเคลื่อนไหวของ “ผู้ยิ่งใหญ่4” คนอย่าง “ทักษิณ-นายกฯอิ๊งค์-เนวินและ “หัวหน้าหนู-อนุทิน” ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าวันอาทิตย์ (2มี.ค.)แต่มาปรากฏเป็นข่าวเมื่อวาน (5มี.ค.) หลังจากที่ก่อนการประชุมบอร์ดคดีพิเศษครั้งแรก (25มี.ค.) ก็มีกระแสข่าวการนัดกันที่โรงแรมพลูแมนซอยรางน้ำจนมีสื่อไปเฝ้าในวันที่ 24มี.ค. อย่างที่มีนักข่าวถาม “รองนายกฯอ้วน” ปฏิเสธการรับคดีในครั้งนี้ เป็นเพราะ“ดีลบ้านจันทร์ส่องหล้า” ล่มหรือไม่ โดยย้อนนักข่าวว่า “คุณไปคิดอะไรเป็นดีล บอร์ดไม่ได้ไปรู้จักดีลกับใครทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่มีดีล และไม่เกี่ยวกับหรือมีผลต่อศึกซักฟอกรัฐบาล

 

 

 

ขณะเดียวกัน มติบอร์ดครั้งนี้ที่ตีตกประเด็นอั้งยี่ซ่องโจร ที่อยู่ ใน มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) ที่ต้องใช้เสียง2ใน3จากจำนวนเต็มของบอรด22คน คือ 15 คน ไม่เหมือนประเด็นคดีฟอกเงินที่ใช้เสียงข้างมากจากจำนวนผู้ร่วมประชุม นั้น นอกจากถูกมองว่ามีการชิงเหลี่ยมกันในบอร์ดที่ลาประชุมและส่งตัวแทนจนองค์ประชุมเหลือแค่18คน ยังถูกวิเคราะห์

 

 

จาก “วงนอก” ว่า “ดีลจันทร์ส่องหล้า” อาจมีผลหรือไม่ อย่างที่ “อดีตสว.สมชาย” โพสต์FB ว่า ปาหี่จบแล้ว มุมแดง vs มุมน้ำเงินเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง (ทาง) #มวยล้มต้มคนดู #ทุจริตฮั้วเลือกสว #กกตมีหน้าที่ #อย่าขี้ลืมในขณะที่บางฝ่ายก็มอง เป็นการ ถอยอย่างมีเชิง ไม่รับเป็นคดีอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งต้องใช้มติ 2 ใน 3 ให้DSIรับเป็นคดีฟอกเงิน ที่ไม่ต้องใช้มติบอร์ด

 

 

 

กระนั้นบางฝ่ายทางการเมืองก็จับสัญญาณ ก่อนหน้าการประชุมถึงความเคลื่อนไหวและท่าทีของแต่ละฝ่ายไม่ว่าจะเป็น สว.สีน้ำเงิน หรือ ฝั่ง “รัฐมนตรีทวี” และ “DSI” ที่ออกมายืนยันเดินหน้าสุดซอย ในการเอาผิดกันและกันไม่นับรวมการออกมาของ เกจิด้านกฎหมาย ทั้งนักวิชาการ และ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่าง “อ.จรัญ ภักดีธนากุล”ที่เตือนแรง “บอร์ดคดีพิเศษ”

 

 

 

เมื่อวาน (5มี.ค.) ทำนอง “บอร์ดคดีพิเศษ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบในวันที่ 6 มี.ค.เพราะหากรับเป็นคดีพิเศษ เท่ากับเป็นการหักกกต. แย่งชิงอำนาจบทบาท ซึ่งวิกฤติการณ์บางอย่างอาจจะรออยู่เบื้องหน้าก็ได้”ที่เป็นท่วงทำนองเดียวกับที่ เลขากฤษฎีกา ซึ่งเป็น กรรมการคดีพิเศษ เคยเตือนครั้งวันที่ 25 ก.พ. ว่าระวังจะโดน ม.157ที่ส่งผลให้การประชุมบอร์ดครั้งแรก (25ก.พ.) เลื่อนมาเป็นวันนี้ ที่ไม่นับรวมสัญญาณจาก กกต. ที่ไม่มาร่วมประชุมแจงกับ “พี่อ้วน” หรือ “บอร์ด” .

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube