หลิวจงอี้-หม่องชิตตู&นายกฯอิ๊งค์

น่าสนใจกับ กับบทบาทความเคลื่อนไหวเชิงรุกต่อเนื่อง ของ “หลิว จงอี้” ผู้ช่วย รมว.กระทรวงความมั่นคงและสาธารณะสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ก่อนและหลังนายกของไทยอย่าง “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” ไปคุยกับ “สีจิ้นผิง” ผู้นำจีน

 

 

 

โดยเขาก็กำลังถูกมองเป็น “ภาพจำ” ของคนไทยและผู้คนหลายประเทศที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน“เมืองบาป” ฝั่งเมียวดี เมียนมา โดยมีไทยเป็นสะพานเชื่อม ว่าเป็น “มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ตัวจริงมากกว่าผู้คนในครม.ของรัฐบาลไทย ที่วันนี้ (17ก.พ.) กำลังประชุมครม.สัญจร ในพื้นที่พัทลุงสงขลา ส่งเลขานุการรมว.กลาโหมของ “พี่อ้วน” มาร่วมคณะ ไปเมียวดี หลังจากเมื่อวาน (16ก.พ.) นอกจากไปป๊ะกับ “รังสิมันต์โรม” ปธ.กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎรฯ ที่กำลังลงพื้นที่แม่สอดเช่นกัน บนเครื่องบิน “หลิว จงอี้”ยังลงพื้นที่ชายแดนไทยเขายังข้ามแบบไปๆ มาๆ พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลพม่า

 

 

ที่แม้ว่า “รองนายกอ้วน” จะบอก ทำนอง การเข้าไปที่เมียวดีของ “หลิวจงอี้” มีการประสานผ่านไทยแล้ว โดยย้ำว่าเป็นข้อตกลงร่วม 3 ประเทศจีนไทยเมียนมา แบ่งหน้าที่กันทำ โดยปฏิเสธว่าการลงพื้นที่ของ “หลิว จงอี้” ไม่ได้จัดการเองแต่ตกลงกันตั้งแต่มาเจอตนแล้ว และว่า ตอนนี้สิ่งที่ได้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการที่รัฐบาลเมียนมา หรือชนกลุ่มน้อยที่เข้ามาจัดการกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ก็ให้เขาดำเนินการไปเลย

 

 

ซึ่ง “หลิว จงอี้” ก็ได้ข้ามไปฝั่งเมียนมาแล้วเป็นกระบวนการที่เปิดเผย ทุกฝ่ายรับรู้ การส่งตัวก็จะผ่านสถานทูตที่อยู่ในเมียนมา ส่วนอะไรที่ทะลักมาทางไทยก็จะมีการประสานงานกัน หากเป็นไปได้เราก็จะมีการช่วยเหลือ ส่วนการออกหมายจับ “พ.อ.หม่อมชิตตู”ที่มาช่วยจัดการแก๊งคอลเซนเตอร์ ยังจะการออกหมายจับหรือไม่ ยังไม่ใช่ประเด็นของเรา เรื่อง “หม่องชิตตู” เป็นเรื่องเก่าที่มีการประสานงานกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ดีเอสไอได้ประสานงานไป เรื่องนี้ยังดำเนินต่อไปอยู่ “หม่องชิตตู”ก็ทำหน้าที่ของเขาโดยประสานงานกับจีน เราคงพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้

 

 

 

ในขณะที่ “รังสิมันต์โรม” มองการเข้าไปจัดการปัญหาในฝั่งเมียนมาของ “หลิวจงอี้” ว่าเข้าใจข้อกังวลของทางการจีนและทางการจีนก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง แต่ตนยังเชื่อว่าไทยมีศักยภาพในการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยตนเองเราอาจจะมีความร่วมมือกับต่างประเทศ ไม่ว่าจีน สหรัฐ สหภาพยุโรป ในรูปแบบประสานงานส่งข้อมูลแต่ไทยเป็นผู้นำในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งการคัดกรองว่าใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถ้าไม่ดำเนินการอะไรเลยแล้วส่งตรงไปเลย

 

 

จะเป็นปัญหาในแง่ความมั่นคง จำเป็นที่ไทยต้องเก็บฐานข้อมูลอย่าลืมว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ไทยเป็นทางผ่าน มีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือหรือไม่ ดังนั้นต้องถอนรากถอนโคนจากบรรดาทั้งเหยื่อทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อจัดการไทยเทา เพราะไม่ใช่แค่เมียวดี ยังมีอีกหลายจุดบางจุดมีผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือคนไทย เช่น ปอยเปต รัฐบาลไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับทางกัมพูชาควรใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชาด้วย

 

 

 

โดย “โรม” ยังฝากถามไปถึง รมว.ยุติธรรม” ทวี” ถึงการออกหมายจับ “หม่องชิตตู” ว่า ถึงไหนแล้ว เพราะทั่วโลกก็เห็นอยู่ว่าเกี่ยวข้องกับความผิดหลายอย่าง ไทยเก็บและมีข้อมูลมาตลอดว่า “หม่องชิตตู” เกี่ยวข้องกับการก่อกรรมทำเข็ญคนจำนวนมากมายแค่ไหน และอยู่ๆ ถ้าจะไม่สามารถออกหมายจับ เรื่องนี้ตนคิดว่าจะทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศอื่นที่มองมายังประเทศไทยแน่นอน ดังนั้นตนมองว่าการออกหมายจับส่งผลสำคัญต่อความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย

 

 

 

ขณะที่ก็น่าสนใจกับความเห็นของ “พงศ์พรหม ยามะรัต” นักธุรกิจด้านเทคโนโลยี อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ที่โพสต์ FBวิเคราะห์การมาในรอบนี้ของ “หลิวจงอี้” หลังจากที่ “สีจิ้นผิง” “ฝากงาน” “นายกอิ๊งค์” เป็นการมาแบบ “ดอดมา”เพื่อไป “ขยี้” ปัญหาเอง เหมือนเป็นการตบหน้ารัฐบาลไทย 4 ที ทั้งการพบกับ “รังสิมันต์โรม” ที่กำลังรบกับทุนเทาจีน และไทยที่ลงพื้นที่ในวันเดียวกัน และการลงพื้นที่โดยไม่มี “นักการเมืองไทย” และ “ข้าราชการระดับสูงไทย” ไปเหมือนก่อนเพราะคงรู้ว่าทั้งนักการเมือง ทหาร ตำรวจบางส่วน หลอกเค้าอยู่ รวมถึงที่ ประกาศว่า ขอมากำกับการจับกุมเองเหมือนจะบอกว่า “ไม่เชื่อคุณ”

 

 

 

และว่าใครตามเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้วที่จีนเริ่มระหองระแหงกับไทยมาตั้งแต่ปี 2563 แล้ว เรื่องนึงที่ทำให้เขาไม่พอใจเพราะการข่าวจีนรู้มาตลอดว่า นักการเมืองเทา ข้าราชการเทา ตำรวจ ทหาร ไปแผ่อาณาเขตธุรกิจเทารอบประเทศตัวเอง โดยคนใกล้ชิดผู้ใหญ่ระดับสูงในรัฐบาล ไปเริ่มวางรากฐานมาตั้งแต่ราวๆ ปี 61 แล้วผลักจนโตในช่วงปี 62-63แถมเปิดชายแดนขนของเข้า-ออกแบบไม่เกรงกลัวฟ้าดิน โดยที่ผู้นำรัฐบาลไม่ทำอะไร รัฐบาลจีนจึงต้องลงมือเองในปี 67และขยี้หนักในปี 68 เพราะการข่าวก็ทราบมาอีกว่า การจับคอลเซ็นเตอร์รอบนี้นักการเมืองไทย จับมือ ตำรวจ ทหารใหญ่” เล่นละคร” หลอกจีนอยู่ ตัวใหญ่มาเฟียเทาจีน ยังอยู่สุขสบาย.

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews