“เปรมศักดิ์-ชลน่าน” 2 หมอ ต้นตอทำสภาล่ม

 

 เป็นที่ทราบกันแล้ว การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256

 

 

 

เพื่อเปิดทางตั้ง สสร.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ที่พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ มีอันต้องจบลงอย่างรวดเร็ว การพิจารณา เดินหน้าต่อไม่ได้ สภาล่มทั้ง2 วัน เพราะ สส. สว. ผู้ทรงเกียรติ มีความเห็นต่าง มีข้อกังวล ที่ทำให้หลายคน หลายพรรคการเมือง ไม่ยอมร่วมพิจารณา
และเกิดปรากฏการณ์สภาล่มซ้ำซาก จนพรรคประชาชน โวยวายฟ้องสังคมกล่าวหาพรรคอื่นๆ ไม่จริงใจ โกหกหน้าด้านๆ ทำให้โอกาสในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทันเลือกตั้งครั้งหน้าริบหรี่ลงอย่างสิ้นเชิง

 

 

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกกล่าวหา ว่าโกหกหน้าด้านๆ เล่นละคร ตบตาสังคม ก็ชี้แจงว่า ทำไปเพื่อรักษาร่างแก้ไขนี้ ให้อยู่ในสภานานที่สุด เพื่อหาทางผลักดันต่อไป ในโอกาสหน้า เพราะหากเดินหน้าไปในวันนี้ก็มีแต่ตาย ไม่มีโอกาสที่จะแก้ไขได้สำเร็จ ซึ่งทั้ง 2 ท่าที จากพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย นั้นล้วนแสดงให้เห็นถึงจุดยืน จุดร่วม และจุดต่าง อย่างชัดเจน

 

 

 

จุดยืน จุดร่วม คืออยากแก้ไข แต่จุดต่างคือเพื่อไทยไม่ดันทุรัง เมื่อมีความเห็นต่างในพรรคร่วม เห็นต่าง ในสว. ก็พร้อมถอย และเดินอ้อมเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ซึ่งสิ่งนี้เพื่อไทย ทำสำเร็จ สามารถรักษาร่างแก้ไข อยู่ในวาระการประชุมรัฐสภาต่อไปได้ ส่วนจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตีความ ตามที่ สส. หลายพรรค และสว.เป็นกังวล แล้วค่อยกลับมาพิจารณากันต่อ แนวทางของเพื่อไทย ก็มีโอกาสสำเร็จได้ และเมื่อย้อนกลับไปดูเหตุการณ์สภาล่มทั้ง 2 วัน ก็ต้องชื่นชม คีย์แมน ที่ทำให้ผลออกมาเป็นแบบนี้

 

 

“สว.เปรมศักดิ์ เพียยุระ” และ สส.ชลน่าน ศรีแก้ว” คือ 2 คน ที่เสนอนับองค์ประชุม จนนำมาซึ่งสภาล่ม ทั้ง 2 วัน ตามลำดับ โดยทั้ง 2 คน มีความเหมือนกัน
คือ ก่อนเป็นนักการเมือง เคยเป็นหมอมาก่อน เคยสังกัดพรรคไทยรักไทยมาด้วยกัน โดย “นพ.เปรมศักดิ์” เป็น ส.ส.ขอนแก่น ในนามพรรคความหวังใหม่ ก่อนจะย้ายพรรคมารวมกับไทยรักไทยและเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

 

ก่อนย้ายไปร่วมงานกับอีกหลายพรรค และไม่ประสบความสำเร็จ ได้เป็น ส.ส.อีกเลย กระทั่งมาลงสมัคร สว. และได้รับเลือกเข้าสู่ภาสูงอีกครั้ง เป็นแกนนำของกลุ่ม สว.สีขาว ต่างจาก “ชลน่าน” ที่ปักหลักกับพรรคที่ต่อยอดมาจากไทยรักไทย จนถึงปัจจุบัน ได้เป็นส.ส.น่าน มาตลอด แม้เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรค ก็ไม่ได้สละเขต มาลงบัญชีรายชื่อแต่อย่างใด รวมถึงยังเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัย รัฐบาล นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ได้คุมกระทรวงหมอช่วงสั้นๆ ในยุคนายกฯ”เศรษฐา ทวีสิน”

 

 

หลังจากต้องกลืนเลือดตระบัดสัตย์ สลัดทิ้งก้าวไกล มาตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรค 2 ลุง อีกทั้งยังได้เป็นดาวสภาด้วย เมื่อปี 2552 ดังนั้น ทั้ง 2 คุณหมอ จาก 2 สภา จึงนับเป็นคีย์แมนสำคัญที่ชลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ออกไป และทำให้ร่างแก้ไข ยังอยู่ในสภา ตามที่พรรคเพื่อไทยต้องการ และจะพยายามผลักดันการแก้ไขให้ประสบความสำเร็จในอนาคต ซึ่งหากสามารถทำได้จริง หลังมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว ก็ต้องชื่นชมการทำหน้าที่ของทั้ง 2 คุณหมอ เพราะช่วยทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความชอบธรรมมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews