Home
|
ข่าว

“ภูมิธรรม” สั่งฟันไม่เลี้ยง หากพบส่งสัญญาณเน็ตให้ปอยเปต

Featured Image

 

 

“ภูมิธรรม” ลุยตรวจเสาสัญญาณเน็ต สั่งฟันไม่เลี้ยง หากพบลอบส่งฝั่งปอยเปต เลี้ยงคอลเซ็นเตอร์ ขอความร่วมมือ ผู้ให้บริการตรวจสอบ หากไม่แสดงตัวพร้อมตัดทิ้งทันที เสี่ยงเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิด

 

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายฉัตรชัย บางชวดเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

 

 

ในเวลา 13.45 น. นายภูมิธรรมและคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจมาตราการดำเนินงานภายใต้ยุทธการอรัญ 68 โดยจุดแรกเดินทางไปที่จุดบูรณราการร่วม ทหาร ปกครอง ตำรวจ ( จต.อ. 25 ) ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยตรวจการใช้ยุทโธปกรณ์โดรน เพื่อใช้ในการช่วยลาดตระเวณ และตรวจตราสิ่งผิดปกติ ของกลองกำลังบูรพา รวมถึงรถปฎิบัติการสื่อสารทางยุทธวิธี ที่จะแสดงผลทางจอทีวีแบบเรียวไทม์หากพบสิ่งผิดปกติ โดยนายภูมิธรรม เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีมาช่วยน่าจะเป็นเรื่องดี ที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติงานได้ผลมากขึ้น

 

 

จากนั้นเดินทางต่อไปตรวจเสาส่งสัญญาณผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ที่บ้านโคกสะแบง โดยจุดนี้จะมีการลดความสูงของเสาลง และออกแบบเสาใหม่ ไม่ให้หันไปทางฝั่งกัมพูชา เพราะจากเดิมที่หันไปมีระยะห่างแค่ 300 เมตร ซึ่งในระหว่างที่คณะรองนายกฯ มาตรวจดู ก็ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าบริษัทที่ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์รับทราบเรื่องแล้วหรือไม่ ก็ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าได้รับทราบ และในช่วงนั้นพบว่าเจ้าหน้าที่บริษัททรู มาปีนเสาตัดสัญญาณและลดระดับการส่งสัญญาณ

 

 

ในเวลา 14.15 น. คณะได้เดินทางไปติดตามการดำเนินงานของชุดเครื่องมือตรวจสอบสถานีวิทยุคมนาคม สำหรับตรวจสอบสถานีโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของ กสทช. ที่ตลาดเบ็ญจวรรณ ต.ป่าไร่ เพื่อดูเสาสัญญาณผู้ให้บริการโดยดูตัววัดสัญญาณอินเตอร์ที่ได้รับแจ้งเตือนจากฝ่ายความมั่นคง ว่าพบความผิดปกติ โดยสามารถบล๊อกไอพีที่ใช้ได้ทันที

 

 

และในเวลา 14.28 น. มาตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และรับฟังรายงานสถานการณ์การเดินทางเข้า ออกของบุคคล โดยผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วผู้บังคับการกองกำลังบูรพา ซึ่งรายงานว่าขณะนี้เราห้ามคนเข้าได้ แต่ไม่สามารถห้ามคนออกได้ถ้สไปอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะถูกหลอกหรือไม่ จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา โดยนายภูมิธรรม กำชับเรื่องการเดินทางเข้าออก

 

 

และได้ไปดูจุดที่เจ้าหน้าที่ตัดสายเคเบิ้ลที่ลักลอบส่งข้ามฝั่งไปยังกัมพูชาเบื้องต้นได้ทีการตัดสายแล้ว หากไม่สามารถหาเจ้าของได้ และเชื่อว่าสายที่ตัดต่อไปยังอาคาร 25 ชั้น ที่มีขบวนการไม่ถูกกฎหมาย

 

 

นายภูมิธรรม โชว์สายเคเบิ้ลที่ถูกตัดแล้ว พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า สายเคเบิ้ลใดที่ตรวจสอบแล้วไม่มีเจ้าของให้ตัดเลย เบื่องต้นตัดไปแล้ว 3 เส้น จาก 32 เส้น เหลือ 29 เส้น หากตรวจไปเจอที่ไหนไม่ถูกต้องก็ตัดทันที

 

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันนี้ทุกฝ่ายร่วมมือกันตามที่สภาความมั่นคงได้มีมติออกไป ทั้งการตัดไฟและอินเตอร์เน็ต แต่ละจุดที่ไปดูห่างจากชายแดนไม่มาก ส่วนเสาสัญญาณได้ลดระดับความสูงลงและหันเสาออกจากจุดชายแดน หากไม่ลดความสูงลงสัญญาณจะข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาได้ เมื่อลดความสูงลงก็ต้องช่วยเหลือประชาชนให้สามารถใช้สัญญาณได้ ดังนั้นตามแนวชายแดนยังไม่ต้องกังวลใจยังใช้สัญญาณได้เพราะเราคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนด้วย ส่วนสัญญาณที่ส่งออกไปข้างนอกเราสั่งตัดอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ขยายการกระทำผิด จุดผ่านแดนบ้านคลองลึกใกล้ชายแดนนิดเดียว มีแค่กำแพงรั้วที่สูงไม่มากขวางอยู่ หันไปดูก็จะเป็นตึก 25 ชั้น ที่ปรากฏออกมาตามสื่อฯ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่เป็นเป้าหมาย โดยสายสัญญาณที่เหลือรอให้เจ้าของมาแสดงตัว เพื่อติดสติกเกอร์ อันไหนบอกไม่ได้ว่าเป็นของใครจะตัดทิ้ง และให้ กสทช. ไปพิจารณาเรื่องสาย เสาซิม และลดกำลังส่งสัญญาณให้วิ่งถี่ขึ้น เพื่อดูว่ามีอะไรรั่วไหลหรือไม่ จะได้ดำเนินการ โดยสายที่ต่อไปทางกัมพูชาหากพบว่า นำไปใช้ในพื้นที่กระทำผิดต้องสาวไปถึงต้นตอว่าเป็นสายของใคร และไม่ดำเนินการตามคำสั่งของรัฐบาลถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ต้องเรียกมาคุยกัน

 

 

 

ทั้งนี้ต้องหารือกับบริษัทผู้ให้บริการ เช่น เอไอเอสได้พูดคุยไปแล้วและวันนี้ส่งคนมาดำเนินการ ส่วนและอื่นอื่นต้องไปคุย โดยขณะนี้มีสองเจ้าใหญ่ คงต้องให้ความร่วมมือหากเป็นเรื่องความมั่นคง ของคนในประเทศ วันนี้มาดูสาวไปถึงใครต้องดำเนินการต่อมาตรการแรก คือ ขอความร่วมมือเพราะเป็นปัญหาความมั่นคงในประเทศหากตรงนี้ยังไม่ได้ผลก็ดำเนินการขั้นต่อไป ตามกฏหมายหากรู้ว่ามีบริษัทที่ขายสัญญาณต่อไปในพื้นที่ผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฏหมาย เราต้องถอนใบอนุญาตหรืออาจไปถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิด ต้องว่าไปตามกฏหมาย ไม่มีเห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น

 

 

“ที่สระแก้ว ต้องเน้นเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไฟฟ้าอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เนื่องจากกัมพูชาก็มีไฟฟ้าที่ผลิตเองส่วนหนึ่ง การจัดการต้องดูแต่ละพื้นที่ไป ในขณะที่ตลาดรวมถึงพญาตองซูที่ผมจะเดินทางไป ตรงนั้นไม่มีไฟฟ้า จึงเป็นเงื่อนไขของเราที่จะทำให้เห็นผล และเค้าก็ตื่นตัวมาก และพยายามสกัดกั้น ผลักดันคนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ทำผิดกฎหมาย”นายภูมิธรรมกล่าว

 

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่าทางเมียนมา ระบุจะส่งคนที่ถูกหลอกไปให้ไทย 20 รอบ รอบละ 500 คน เราจึงบอกว่า ขอให้ประเทศต้นทางของคนที่ถูกหลอกไประบุมาก่อนเพราะเราไม่อยากมาสร้างค่ายอพยพที่ไทย ขณะนี้ทางจีนมีรัฐมนตรีเดินทางไปที่เนปีดอ ไปคุยกับรัฐมนตรีมหาดไทยเมียนมา เมื่อกลับเข้ามาได้นัดพูดคุยกับตน ที่จะมาหารือถึงมาตรการร่วมมือกัน ยืนยันว่าทั้งหมดเราต้องคำนึงถึงอธิปไตยของไทยส่วนความร่วมมือเป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่จะร่วมกัน

 

 

เมื่อถามว่าจะขยายมาตรการเข้มข้นที่ทำกับเมียนมาร์มาใช้ในฝั่งกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า บางอย่างเหมือนได้ บางอย่างไม่เหมือนกัน เช่น เรื่องของการตัดไฟต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค แต่ไม่ใช่ปัญหาของทางกัมพูชา แต่สัญญาณอินเตอร์เน็ตมีส่วนสำคัญมากกว่า เพราะแนวชายแดนติดกัน บางครั้งสามารถกระโดดข้ามกันมาได้ ที่เสนอขอทำรั้วให้สูงขึ้นคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์และจะนำไปพิจารณาและไม่ต้องกลัวหากมีการทำรั้วจะไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน เราทำในอธิปไตยของเรา พื้นที่ทับซ้อนต้องไว้ทีหลังเพราะมีปัญหาอยู่ จึงย้ำมาตลอดว่าการจัดการปัญหาไม่ง่าย เพราะมีเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube