ประธานกมธ.มั่นคงฯ จี้ “อนุทิน” จัดการตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์
“รังสิมันต์” จี้ “อนุทิน” จัดการตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เตือนอย่าให้ประชาชนนินทาได้ว่าอาจมีส่วนร่วมอาชญากรข้ามชาติ
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญหน่วยงานด้านความมั่นคง หารือถึงปัญหายาเสพติด แก๊งคอลเซนเตอร์ ว่า นี่เป็นหลายครั้งที่เราได้หารือถึงปัญหาสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน วันนี้มีการเชิญกระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าแม่สาย
ซึ่งมีความสัมพันธ์กับเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงบริษัทนอมินีเพื่อรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับไทย ซึ่งวันนี้ กมธ.จะหาข้อสรุปในคำสั่งของคณะรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทยเรื่องการทบทวนตัดสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่ควรจะเดินหน้าไปก่อนนี้แล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าขณะนี้ติดปัญหาอะไร
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ก่อนการเปิดขายไฟ ของ กฝภ. ต้องไปถามหน่วยงานความมั่นคง แต่หากจะมีการตัดไฟ ก็ต้องถามหน่วยงานความมั่นคงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องทำ แต่ กฝภ. ระบุว่าจะทำเอง ตนเห็นว่าการที่ไทยยังอยู่กับแก๊งคอลเซนเตอร์จากการขายไฟให้จาก กฝภ. รับเงินจากแก๊งคอลเซนเตอร์ นี่จึงเป็นสิ่งที่ กฝภ.ต้องรับผิดชอบ
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ยังฝากไปถึง นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ามีอำนาจในการดำเนินการตัดไฟได้เลย ควรให้ความสำคัญเรื่องนี้ อย่าให้ประชาชนนินทาได้ว่าท่านอาจมีส่วนร่วมอาชญากรข้ามชาติ
ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมของบัญชีม้า ในการหารือบ้างนั้น นายรังสิตมันต์ ระบุว่า ขณะนี้บัญชีม้ามีจำนวนมาก อาจทะลุล้านบัญชีแล้ว ซึ่ง หน่วยงานของรัฐควรจะมีมาตรการในการปราบปรามอย่างจริงจัง อีกทั้งธนาคารควรรับผิดชอบในบัญชีม้าที่เกิดขึ้น แต่การประชุมหารือในวันนี้ต้องการที่จะลงลึก ในเรื่องของพลังงานที่ส่งให้กับอาชญากรรมข้ามชาติ ส่วนในอนาคตจะเป็นเรื่องของบัญชีม้า รวมถึงมาตรการฟรีวีซ่า ที่อาจจะต้องนำกลับมาทบทวน เพราะบ้างพื้นที่อาจจะต้องขออนุญาตพิเศษ
ส่วนการออกมาเปิดเผยจากรัฐบาลเมียนมาร์ ว่ามีประเทศเพื่อนบ้านคอยสนับสนุนทำให้ไม่สามารถปรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นั้น นายรังสิมันต์ มองว่า เป็นอีกหนึ่งความชัดเจนที่ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยืนยันว่าทุกเรื่องที่ตนเคยอภิปรายในสภาเป็นความจริง
“เราควรจะต้องทบทวนตัวเองว่าน่าละอายเพียงใดที่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น วันนี้เราไม่ใช่แค่แบตเตอรี่ธรรมดา แต่เรามีส่วนในการสร้างแก๊งคอลเซนเตอร์ และยี่คือปัญหาที่ประเทศไทยควรปราบได้แล้ว การที่มีคนฆ่าตัวตายจำนวนมาก รัฐบาลรับผิดชอบไม่ไหว“
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน เคยบอกไว้ว่าการขายไฟให้เมียนมาร์ ต้องผ่านขั้นตอนหลายหน่วยงาน แต่การจะไปใช้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ ต้องให้เมียนมาร์จัดการ นายรังสิมันต์ มองว่า บริษัทคู่สัญญาการไฟฟ้า เป็นนอมินีของม่องชิดตู่ ที่เป็นผู้นำของ BTF,NK ไฟฟ้าเหล่านี้จึงนำไปสู่การทำกิจกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งการขายไฟให้กับบริษัทที่เป็นตัวแทนจากรัฐบาลเมียนมาร์ก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่การเมืองของประเทศนั้นไม่ปกติแล้ว เรียกเรียกว่าอาจจะมีสงครามกลางเมือง จะมองว่าเป็นประเทศปกติไม่ได้
พร้อมทิ้งท้ายว่า เคยมีหนังสือติดตามมาที่กระทรวงมหาดไทย ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) จึงถามไปว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ต้องทำตามหรืออย่างไร
ทำไมการไฟฟ้ายังขายไฟได้ต่อ ที่ตัดไฟไม่ได้เพราะผลประโยชน์หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
