“กัณวีร์” จี้แก้ปัญหาศูนย์การเรียน เด็กเคลื่อนย้ายถิ่น
“กัณวีร์” จี้แก้ปัญหาศูนย์การเรียน เด็กเคลื่อนย้ายถิ่นฐานจากประเทศเมียนมา ไล่ปิดศุนย์ ไม่เกิดประโยชน์
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงเหตุการณ์การปิดศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ฯ ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานจัดการศึกษาให้เด็กเคลื่อนย้ายถิ่นฐานจากประเทศเมียนมาใน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีเด็กมากกว่าพันคน แต่ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ไม่ได้จดทะเบียนเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามมาตรา 12 แห่ง พรบ.การศึกษาแห่งชาตินั้นกำลังถูกพูดถึงในแวดวงการศึกษา วงกฎหมาย คนทำงานด้านสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม และสังคมในวงกว้างโดยทั่วไป
นายกัณวีร์ กล่าวว่า กรณีนี้มีความคิดแตกต่างหลากหลาย หากมองในมุมกฎหมายแล้ว ถ้าไม่จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายที่มีอยู่ ต้องมีความผิดและ มีโทษปิด ปรับ ดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทุกคน”แต่หากมองมุมกว้างๆ ขอให้ทุกคนเปิดใจในเรื่องดังกล่าวจากเหตุการณ์การ “ร้องเพลงชาติพม่า” กันก่อนนะครับ มองให้ดีครับ ตามข่าวที่ออกมา มีศูนย์การศึกษาอย่างนี้ที่ดูแลเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกๆ
ของแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัยจากเมียนมาทั้งหมด 63 แห่งทั่วไทย ที่ดูแลเด็กๆ ทั้งหมดเกือบสองหมื่นคน และยังมีอีกส่วนมากที่ยังไม่ได้เข้าระบบ และในขณะเดียวกันระบบการศึกษาของไทยก็ไม่สามารถโอบรัดเด็กจำนวนหลายหมื่นคนที่ยังมีพื้นฐานที่แตกต่างกับเด็กไทยเข้าระบบด้วยเช่นกัน”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า มีเด็กที่เป็นลูกของแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัยจากเมียนมา ที่เรียนอยู่ในศูนย์การเรียนรู้ 63 แห่ง มีจำนวนกว่า 2 หมื่นคน หากเจ้าหน้าที่ตามไล่ปิด แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ตนเองจึงขอตั้งคำถามว่ายิ่งปิด จะยิ่งหายไปหรือไม่ ปิดแล้วใครได้ประโยชน์ เด็กประมาณ 2 หมื่นคน หรือสังคมไทยจะได้ประโยชน์อะไร ปิดแล้วหากเด็กๆ สองหมื่นคนนี้เดินทางกลับประเทศต้นกำเนิดไม่ได้ สามารถเข้าสถานศึกษาในไทยได้มั้ย
หากเข้าไม่ได้ เค้าจะเป็นกลุ่มคนที่มีคุณภาพอย่างไร แล้วหากต้องอยู่ในไทยอีกหลายสิบปีหรือตลอดไป และไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ เค้าจะเป็นอะไรในสังคมไทย จะส่งผลที่ดีต่อสังคมไทยหรือไม่ หากพวกเค้ายังไง ก็ต้องอยู่ในสังคมไทย เอาเค้าเข้ามาเป็นประชากรที่มีคุณภาพของไทยดีกว่าหรือไม่
“เราต้องเริ่มตอบคำถามทีละคำถามด้วยใจที่เปิดกว้างครับ แล้วเราจะเห็นคำตอบที่ปลายทางด้วยตัวคำตอบในแต่ละคำถามมันเอง โดยปราศจากอคติใดๆ ครับ ต้องถือโอกาสนี้ในการจัดระบบศูนย์การศึกษาต่างๆเหล่านี้ทั้งระบบไปเลยครับ หากเค้าไปไหนไม่ได้ ทำให้ถูกต้องเข้าระบบ ตรวจสอบ และสนับสนุนตามนโยบายการศึกษาของเรา ผู้ปกครองพวกเค้าที่เป็นแรงงานข้ามชาติต้องนำบุตรเข้าระบบอย่างถูกต้องและต้องไม่เป็นภาระให้ใครอีกต่อไป ยืนด้วยขาตัวเอง”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า เหมือนหลายๆ เรื่องที่มีอยู่ในไทยมาอย่างยาวนานแต่เราเอามาอยู่ใต้พรมตลอดเวลาเป็นหลายทศวรรษ ทำให้เกิดการกวาดล้างเป็นเทศกาล แต่ไม่เคยหายไปอย่างมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มเปราะบางที่ควรจะมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ ที่มีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลได้มากกว่านี้ และพวกเค้าจะกลับมาช่วยพัฒนาสังคมที่พวกเค้าเข้ามาอยู่อย่างสร้างสรรค์
“ตามที่ผมได้พูดไว้เสมอครับ “เปลี่ยนภาระ ให้เป็นพลัง” จะตามเรื่องนี้ให้ติดอีกเรื่องหนึ่งครับ ถึงแม้จะมีเสียงเดียวในสภาฯ แต่จะพยายามทำให้เต็มที่ครับผม” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





