“พีระพันธุ์ ” ครม.เคาะตรึงค่าไฟฟ้า 4.18บ./หน่วย อีก4เดือน
“พีระพันธุ์ ” ครม.เคาะต่อเวลาตรึงค่าไฟฟ้า 4.18 บาทต่อหน่วย อีก 4 เดือนถึงสิ้นปี ด้านราคาน้ำมันดีเซล ตรึง 33 บาทต่อลิตร ถึง 31 ต.ค.นี้ เชื่อ หลังจากนั้น กบน.ยังแบกรับไหว เล็งคุย ก.คลัง หาวิธีการแบกต่อ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เกี่ยวกับมาตรการลดราคาพลังงาน ซึ่งเรื่องนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้แถลง
จากนั้นนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องค่าไฟฟ้า ที่ประชุม ครม.มีมติต่อระยะเวลาตรึงราคา 4.18 บาทต่อหน่วยไปอีก 4 เดือน (ก.ย. – ธ.ค.) รวมถึงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยเช่นเดิม พร้อมกับยืนยันในกระแสข่าวที่ว่า จะขึ้นค่าไฟฟ้านั้นไม่มี
ส่วนการตรึงราคาไฟฟ้าให้อยู่ในราคาดังกล่าวนั้นกระทรวงฯ มีวิธีการของตนเอง ยืนยันว่า จะไม่มีผู้ใดเดือดร้อน และไม่ได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ไปแบกรับ ซึ่งจะได้เงินส่วนต่าง จากค่าไฟฟ้าไปจ่าย แต่จะจ่ายในจำนวนที่ลดน้อยลง และนำไปชำระหนี้ให้ กฟผ.ด้วย ซึ่งการชำระจะจ่ายตามงวดค่าไฟฟ้า และการชำระหนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายในงวดเดียวทั้งหมด เพราะการจ่ายหนี้งวดเดียวจบประชาชนจะเป็นผู้เบาะแบกรับหนี้ ซึ่งไม่มีเหตุจำเป็นที่จะทำเช่นนั้น ฉะนั้นการทยอยจ่ายเป็นรายงวดก็มีค่าเท่ากัน นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีมติตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 33 บาทต่อลิตร โดยใช้มาตรการจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.67
ส่วนการตรึงราคาน้ำมันนั้นจะเป็นการตรึงราคาน้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินก็เดือดร้อนเช่นกัน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า กลไกน้ำมันเป็นเช่นนี้มานานนับเวลา 50 ปี ซึ่งตนก็ไม่พอใจ แต่ขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไข ซึ่งอยู่ระหว่างการร่างเป็นกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ตนได้ร่างกฎหมายต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังส่งให้ฝ่ายกฎหมายของทีมตรวจสอบ และจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องราคาน้ำมันที่ขึ้นอยู่ในทุกวันได้
ส่วนร่างกฎหมายดังกล่าว จะไม่ทันใช้ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่า ไม่ทัน เพราะต้องส่งเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังจะมีร่างกฎหมายเพราะที่ผ่านมา 50 ปี ไม่เคยมีร่างกฎหมายนี้
เมื่อถามย้ำว่าหลังวันที่ 31 ต.ค.นี้ จะมีการบริหารเรื่องราคาน้ำมันอย่างไร ระหว่างรอร่างกฎหมายดังกล่าว นายพีระพันธุ์ ระบุว่าต้องใช้ตามกฎหมายเดิมไปก่อน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ก็มีการปรับระบบทั้งหมด พร้อมเชื่อว่าหลังวันที่ 31 ต.ค.นี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังจะแบกรับไหวอยู่ แต่อย่างไรก็ตามต้องไปพูดคุยกับกระทรวงการคลังว่าจะมีวิธีการอย่างไรต่อไป ส่วนหลังวันที่ 31 ต.คนี้ ใช้กลไกของลดภาษีสรรพสามิตมาช่วยใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ต้องหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาน้ำมันจะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายอื่นหรือไม่ ในการออกกฎหมายดังกล่าว หรือจะมีการขัดแข้งขัดขากันหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่มีเพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องของผลประโยชน์ประชาชน และประชาชนคือผู้ได้ผลประโยชน์โดยรวม และจากการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีใครมีปัญหา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





