Home
|
ข่าว

กกต.ยันสอบเข้มก่อนประการผลสว.ทางการ

Featured Image

 

 

 

 

กกต.ยันจะตรวจสอบเข้มข้นทำเลือกสว.บริสุทธิ์ยุติธรรม รอ 5วันก่อนประการผลทางการ ยังร้องคัดค้านได้ ย้ำมี 614 เรื่องร้องเรียน

 

 

 

 

นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. แถลงสรุปภาพรวมการเลือกสว.ระดับประเทศ ว่า เมื่อวาน (26 มิ.ย.) ได้มีการประกาศผลคะแนนผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสว. 200 ราย และสำรองอีก 100 ราย ตนในฐานะผู้อำนวยการการเลือกสว.ระดับประเทศ ได้แจ้งผลคะแนนให้กับกกต.ในวันนี้ ( 27 มิ.ย.) แล้ว ซึ่งกกต.ต้องรอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน จึงจะประกาศการเลือกสว. คือนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. เป็นต้นไป ถ้าเห็นว่าการเลือกสว.เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม

 

ส่วนกรณีหากจะคัดค้านการเลือกสว.ก่อนประกาศผล จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายใน 3 วัน นับจากวันที่กรรมการประจำหน่วย (กปน.) วินิจฉัย ซึ่งจะเป็นการยื่นร้องการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องของความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือสามารถร้องต่อกกต.ก็ได้ หากเห็นว่าการดำเนินการในวันเลือกเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าเป็นกรณีเป็นการเลือกที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ยังสามารถร้องต่อกกต.เพื่อให้กกต.พิจารณาเพื่อส่งเรื่องไปยังศาลทั้งก่อนและหลังการประกาศผล

 

นายแสวง กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้สมัครหลายรายตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติในการลงคะแนน กกต.ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งกกต.ได้ยืนยันอย่างต่อเนื่องว่าจะดำเนินการเรื่องความไม่สุจริต เที่ยงธรรม ทั้งเรื่องการฮั้ว การบล็อกโหวต ซึ่งหากระเบียบเก่ายังอยู่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้น้อย และกกต.สามารถป้องกันได้ แต่เมื่อระเบียบยกเลิกต้องดูกฎหมาย อย่างแรกคือการกระทำว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเห็นใครพูดว่าการบล็อกโหวต หรือโพย ว่าผิดกฎหมาย

 

เมื่อกกต.ทำงานก็ต้องมาว่าการกระทำเช่นนี้มีความผิดหรือไม่ อย่างที่ 2 คือ ความผิดนั้นมีองค์ประกอบความผิดอย่างไร และจะต้องไปหาข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก่อนที่จะวินิจฉัย ยืนยันว่ากกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ถ้าเราบอกว่าเรื่องหัวคือการบล็อกโหวต พื้นฐานอาจจะเกิดจากเงินก็ได้ ซึ่งนั่นผิดกฎหมายอย่างแน่นอนตามมาตรา 71 (1) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. ที่กำหนดในเรื่องของการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด

 

จะเข้าองค์ประกอบความผิดแน่นอน แต่ถ้าเป็นลักษณะชวนกันมา หรือแลกคะแนนกัน โดยไม่เสียเงินตรงนี้เป็นปัญหาทางกฎหมาย แต่ระเบียบกกต.ได้ถูกยกเลิกไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาในการนำกฎหมายไปจับเรื่องนี้ว่าสุดแค่ไหนอย่างไร

 

อย่างไรก็ตามกกต.จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุดในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรม ก็จะต้องมีการตรวจสอบว่ากลุ่มไหนเข้าไปพัก ใครเป็นคนยอมใครเป็นคนจ่าย ลงทะเบียนใครเป็นคนให้เงิน ซึ่งตรงนี้จะเข้าข่ายความผิดเรื่องการจัดเลี้ยง

 

นายแสวง ยังกล่าวถึงเรื่องร้องเรียนว่า ขณะนี้มีทั้งหมด 614 เรื่อง จำแนกเป็นเรื่องการร้องเรียนคุณสมบัติให้ลบชื่อ 400 กว่าเรื่อง หรือคิดเป็น 65 เปอร์เซ็น และร้องเรื่อง ความไม่สุจริต ให้เงิน ให้ทรัพย์สินตามมาตรา 77 พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. 14 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 4% เป็นการร้องเรื่องการทุจริต ให้ลงคะแนน จ้างสมัคร เรียกรับ ให้ เพื่อลงคะแนน รวมถึงการนับคะแนน เจ้าหน้าที่ขานคะแนน

 

ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ เป็นการร้องให้ลบชื่อออกในการเลือกระดับอำเภอมากที่สุด มีการยื่นเรื่องไปที่ศาลฎีกา และศาลมีคำวินิจฉัย โดยสิ่งที่กกต. จะต้องดำเนินการต่อคือการระงับสิทธิสมัครชั่วคราว (ใบส้ม ) ส่วนการร้องระดับจังหวัดมี 175 เรื่อง ระดับประเทศยังไม่มี

 

เมื่อถามว่า การตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสว.เป็นคนของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง นายแสวง กล่าวว่า คำร้องเดิมก็มีลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูว่าเข้าองค์ประกอบผิดกฎหมายหรือเปล่า เราพยายามเอากฎหมายมาปรับใช้ เพื่อให้การเลือกสุจริตเที่ยงธรรม

 

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ได้รับเลือกสว.เป็นกลุ่มการเมืองหนึ่ง นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้ เราตรวจสอบอยู่แล้ว คำร้องเดิมก็มีลักษณะอย่างนี้ แต่ตรวจสอบแล้วก็ต้องดูว่าเข้าความผิดตามกฎหมายหรือไม่ เราพยายามจะเอากฎหมายมาใช้ให้ได้เพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม แต่กรณีที่บอกว่า “มีโพย” มี “บล็อกโหวต” แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดคำว่าผิดกฎหมายสักคน มีแต่คนพูดว่า “เป็นข้อสังเกต ”

 

นอกจากเราจะไปสืบว่าการไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน ลงคะแนนให้กันมีการให้เงิน มีการให้ประโยชน์ มีการจัดเลี้ยงหรือไม่ ซึ่งกำลังหาพยานหลักฐานตรงนี้มาสนับสนุน หากเป็นเช่นนี้ผิดกฎหมายแน่นอน ทั้งนี้การฮั้วกรณีการไปเจอกันที่โรงแรม นนทบุรี ปทุมธานี หรืออยู่เมืองทองจริงๆ มาก่อน 3-4 วัน ไม่ถือว่าผิดแต่ว่าถ้าเกิดทำเกินนั้นเช่นมีคนจัดเลี้ยงมีการให้เงิน ให้ค่าที่พักเราก็ต้องหาส่วนนี้

 

ส่วนที่มีการรายงานว่า มีการเข้าไปเจรจาในห้องน้ำ นายแสวง กล่าวว่า ที่จริงตนก็เข้าห้องน้ำชายหลายรอบ และมีคนของกกต. อยู่ในนั้น ก็พบเหตุการณ์ว่ามีการเจรจาแต่ว่าจับยาก การท่องหมายเลขต่างๆ เขาก็บอกได้ทำการบ้านมา หรือตัดสินใจมาจากข้างนอก หรือจากที่ไหนก็ไม่ทราบ เพราะเราไม่อนุญาตให้เอาเอกสารอะไรเข้าไปในห้องเลือก ให้ใช้เอกสารใหม่ที่เราแจกให้เท่านั้น

 

ส่วนการพูดคุยเจาะจงว่าให้มีการเลือกหมายเลขนั้น หมายเลขนี้ นั้นก็ต้องดูด้วยว่า มีการให้เงินกันหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นไปตามระเบียบเดิม จะห้ามขอคะแนน แลกคะแนนกัน แต่เมื่อศาลตัดสินให้การแนะนำตัวสามารถทำได้

 

ดังนั้นการที่ผู้สมัครพูดคุยกันเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ไม่มีการจ่ายเงิน ซึ่งคิดว่าไม่มีใครกล้าจ่ายเงินในนั้น อย่างไรก็ตามก็อยู่ที่การสืบสวนสอบสวน ยกตัวอย่าง กลุ่มคนที่ได้คะแนนใกล้ๆ กัน ก็อาจจะไปดูต้นทางการเงิน แต่ในห้องน้ำไม่มีการจ่ายเงินเพราะว่าเราดูแลดี

 

เมื่อถามว่า มีผู้สมัครโวยวายว่าขีดคะแนนได้ 13 คะแนน แต่พอรวมคะแนนกลับได้เพียง 12 คะแนน แล้วคะแนนหายไป นายแสวง กล่าวว่า การเลือกสว.ประเทศ เพราะทุกคะแนนสำคัญมากเพราะเป็นการเลือกครั้งสุดท้ายแล้ว ดังนั้นของเราอ่านช้า ชัด โปร่งใส และมีท่าทีที่เป็นมิตรแต่เด็ดขาด อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิด 4 ตัวเพื่อดูพฤติกรรมคนในแต่ละกลุ่ม

 

ซึ่งในระดับอำเภอ ระดับจังหวัดศาลก็ใช้กล้องนี้มาตัดสินว่ามีการท้วงติง หรือไม่มีการทำถูกต้องหรือไม่ ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ผู้สมัครนับและขีดคะแนนเอง แต่ในกระดานไม่ใช่ มันเหมือนคนตกลงกันมา ได้ 3 คแนน แต่พอผลออกมาได้ 2 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเพื่อนที่เข้าคูหาแล้วเขียนเลขให้หรือไม่ ซึ่งมีกล้องชัด ซึ่งถือเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ กับความรู้สึกของคน เหมือนที่มีคนเข้าห้องน้ำแล้วพูดว่า “ผมถูกหักหลัง” มันก็เป็นลักษณะเดียวกัน

 

นายแสวง เผยว่ากล่าวว่า สำหรับตนมองว่าผู้สมัครทุกคนเท่ากัน ไม่เกี่ยวกับคนดังหรือไม่ดังที่ตกรอบ

 

ทั้งนี้หากจะมีการจัดเลือกสว.ครั้งต่อไปจะใช้เวลานานเช่นนนี้หรือไม่นั้น นายแสวง ได้ขำก่อนที่จะกล่าวว่า ถ้ายังใช้ระบบนี้อยู่ อย่างน้อยต้องดีขึ้น ใช้เวลาแน่นอน แต่กกต.อาจจะรับมือยากขึ้นก็ได้ เช่นในการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 โดยใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นครั้งแรก เราทำอะไรก็ง่ายเพราะคนยังไม่ไหวตัว แต่พอการเมืองไหวตัวจะยากทันที จะมีการเตรียมการเพราะรู้ว่าเกมจะเดินไปเช่นนี้ แต่กกต.ต้องรับมือให้ได้ และเชื่อว่าการบริหารจัดการจะดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตอนนั้นคงไม่ใช่ตนที่จะมารับผิดชอบแล้ว

 

เมื่อถามอีกว่า ว่าที่สว.บางรายมีคุณสมบัติไม่ตรงกลุ่มอาชีพ แต่ได้รับเลือกเป็นสว.นั้น กกต.จะมีการตรวจสอบอย่างไร นายแสวง กล่าวว่าเดิมตามกฎหมายอาชีพจะต้องมีองค์กรรับรอง แต่เมื่อไปดูรัฐธรรมนูญไม่ต้องมีองค์กรรับรองเพราะไม่อยากให้มีเจ้าพ่อมาอีกคนหนึ่งเพื่อมากันมากรองคนเข้ามา ให้ผ่านกลุ่มวิชาชีพนั้น องค์กรนั้น

 

แต่อยากให้ประชาชนเดินเข้ามาสมัครโดยมีผู้รับรองไม่ต้องจบปริญญาตรี ความรู้คือความรู้จริงๆมาจากอาชีพจัดการทำงาน ไม่ใช่ปริญญา ให้ทุกคนสามารถเข้ามาสมัคร และกฎหมายก็ออกแบบมาครอบคลุม 20 กลุ่มอาชีพ

 

โดยเริ่มตั้งแต่ระดับอำเภอ เพื่อเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย แล้วให้ตัวเองเป็นผู้ถูกเลือก และผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกด้วย อย่างไรก็ตามกฎหมายไม่สามารถไปดูพฤติกรรมคนได้ทุกอย่าง ซึ่งจนถึงตอนนี้มีคนร้องเข้ามาเยอะที่สุดคือเรื่องคุณสมบัติ ทั้งนี้กฎหมายได้ให้สิทธิเขายกตัวอย่างอาชีพทำนา ทำนาเกลือบางคนทำนาเกลือ มาอยู่กลุ่มอาชีพทำนา แต่ถ้าไปดูตามกฎหมายมันให้สิทธิเขา

 

เมื่อถามว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหยิบย่อย นายแสวง กล่าวว่า มันเกินกำลังคนตัวเล็กๆอย่างตน ก็เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน เพราะสภาออกแบบมาเช่นนี้ กกต.ก็มีหน้าที่ทำ เพียงแต่ต้องทำให้ดีที่สุด ขณะนี้คนได้เห็นหน้าตาสว.ชุดใหม่แล้ว บางคนบอกให้ลองไปก่อน หรือถ้าทำผิดก็สอบอยู่แล้ว แต่บอกว่าได้ตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้หรือไม่

 

ซึ่งรัฐธรรมนูญออกแบบไว้สวยแน่นอน แต่เมื่อใช้แล้วกกต.ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่จนถึงวันนี้ก็กำลังจะส่งรายชื่อแล้ว นอกจากจะขวักคนผิดออก ส่วนข้อวิจารณ์ต่อหน้าตาสว.ชุดใหม่ที่สังคมมอง ตนของไม่ออยกความเห็น อย่าให้ตนมีความเห็นเลย เพราะตนจะเดือดร้อน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube