นายกฯ ร่ายยาวหลังลุยเมืองชลฯ เยี่ยมเกาะล้าน เล็งเพิ่มความปลอดภัย

 

 

 

นายกฯ ร่ายยาวหลังลุยเมืองชลฯ เยี่ยมเกาะล้าน พบพฤติกรรม นทท. หลังโควิดเปลี่ยนไปเยอะ เล็งเพิ่มกำลังพลตำรวจดูแลความปลอดภัย ชม อบจ.ดูเรื่องถนน walking street ขยะได้ดี เล็งหาทำเลโซนพัทยา-อู่ตะเภา เสนอจัดแข่ง F1

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังลงพื้นที่ชลบุรีระยอง ว่า ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา(22มิ.ย.67)ตอนเช้านั่งเรือไปที่เกาะล้านพบว่าปีนึงหลังโควิดที่ผ่านมาพฤติกรรมในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเปลี่ยนไปเยอะมาก จำนวนคนที่มาเที่ยวเกาะล้านเยอะขึ้นอย่างมาก ปีนึงหลังโควิด ประมาณ 500,000 คน ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในเกาะคือเรื่องปัญหาขยะ ปัญหาเรื่องน้ำประปา ปัญหาเรื่องความปลอดภัย ปัญหาเรื่องระบบสาธารณสุข เช่น ปัจจุบันยังไม่มีโรงพักในเกาะล้านเลย เพราะยังไม่ยกระดับโรงพักขึ้นมาเป็นแค่หน่วยรักษาความปลอดภัยของกรมตำรวจที่มาจากพัทยามีตำรวจประจำอยู่ประมาณ 12 คน ตนจึงบอกว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ปีละ 500,000 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ตรงนี้น่าจะเป็นประเด็นจึงมีการบอกทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสองให้มีการยกระดับตรงนี้ให้เป็นโรงพักเต็มที่โดยเร็ว แต่ ระหว่างนี้ก่อนที่จะยกระดับต้องหาจำนวนตำรวจมาให้เยอะขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องของขยะก็เป็นปัญหาเพราะปัจจุบันมีปัญหาขยะสะสมอยู่แล้ว และปัจจุบันเตาเผาน่าจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้ถ้าเกิดเสร็จแล้วปัญหาขยะก็จะถูกกำจัดไป ส่วนปัญหาเรื่องน้ำประปามีการเปลี่ยนจากน้ำทะเลเป็นน้ำจืด ขณะนี้พยายามเพิ่มกำลังผลิตน้ำจืดเพิ่มมากขึ้น ระบบสาธารณสุขก็ยังไม่มีโรงพยาบาลประจำที่นั่นก็ต้องให้ไปศึกษาดูว่าถ้าเกิดขยับขยายเรื่องสาธารณสุขได้หรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

 

นอกจากนี้ช่วงบ่ายมีการไปดูสนามกีฬาที่พัทยา ที่อำเภอหนองปรือ ซึ่งเป็นสนามกีฬาที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดใช้เวลา 10 ปีแล้วยังไม่เสร็จ แต่ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีของพัทยาได้มีการจัดการให้เสร็จภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีสามารถจุคนได้ 20,000 กว่าคน และไม่ได้รองรับแค่เรื่องกีฬาเพียงอย่างเดียว งานแสดง งานคอนเสิร์ตก็สามารถรองรับได้ โดยตนเองได้กำชับเรื่องถนนทางเข้าต้องใหญ่พอ เรื่องตัวสเตเดียมก็ต้องสามารถให้รถขนาดใหญ่ขนอุปกรณ์การแสดงเข้ามาได้ด้วย ไม่อย่างนั้นหากมีแล้วก็ไม่สามารถจัดคอนเสิร์ตได้ ระบบไฟต้องดูให้เพียงพอเพราะการที่จัดคอนเสิร์ตมีลำโพงมีเครื่องเสียงที่ต้องใช้ไฟมาก

 

ส่วนช่วงบ่ายมีการไปร่วมงานพาเรดไพรด์ ดีใจที่มีคนมาร่วมงานหลาย 1,000 คน และเป็นงานที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ซึ่งดูจากรอยยิ้มและสีหน้าของผู้ที่เข้ามาร่วมงานทุกคน ซึ่งปีนี้ต่างจากปีที่แล้ว เพราะจากการผลักดันของทุกภาคส่วนทำให้เราสามารถจัดเรื่องการสมรสเท่าเทียมผ่านสภาได้ และอีก 120 วันก็ดีใจแทนพวกเขาเหล่านั้นที่จะได้แต่งงานอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

 

นอกจากนี้ตอนกลางคืนไปเดินที่ถนน walking street ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และชาวจีนเพิ่มขึ้นมา โดยได้ดูเรื่องความปลอดภัย และได้พูดคุยกับอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวที่จริงๆแล้วทำงานโดยไม่มีเงินเดือนและทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ไปสังเกตดูเรื่องขยะก็ไม่มีประเด็นมากเท่าไหร่ ซึ่งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นบริหารจัดการได้ดี

 

ส่วนช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ไปที่สนามบินอู่ตะเภาดูการเร่งรัดการก่อสร้างในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ตรงนั้นมีประเด็นอยู่ว่าเรื่องการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงของสามสนามบิน สนามบินอู่ตะเภา, สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีความล่าช้า โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีการบอกว่าภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมจะมีความชัดเจนในแง่ของแผนงานที่จะสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เพราะหากรถไฟความเร็วสูงไม่สามารถสร้างทันเวลาได้ในการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาก็อาจจะมีปัญหาเพราะไม่สามารถเชื่อมโยงการขนส่งได้หมดนี่คือเรื่องสำคัญ

 

นอกจากนี้มีการไปดูที่หาดจอมเทียนโดยมีการดูพื้นที่ที่อาจมีการทำการแข่งขันฟอร์มูลาวันได้ และดูเรื่องท่าเรือแหลมฉบังเพราะเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาตนเองได้มีการมาตรวจที่นี่พบว่ามีความล่าช้า แต่ภายใต้การนำของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและทีมงานสามารถCatch up (ตามให้ทัน) ซึ่งเหลือไม่ถึง 4% โดยทั้งหมดจะสามารถCatch up ได้ภายในสิ้นปีหน้า ทำให้การก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้คือเดือนมิถุนายน 2569 ซึ่งทีมงานมีความกระตือรือร้นดีและวันนี้มาให้กำลังใจและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาว่ามีปัญหาตรงไหน ก็ทราบมาว่าเรื่องการขนหินเข้ามาและจำนวนหินที่จะเข้ามามีปัญหา โดยนายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ก็สามารถช่วยเหลือหาหินเข้ามาถมให้ได้ตรงนี้ก็ต้องมอนิเตอร์กันต่อไป อย่างน้อยก็ทราบและเป็นกำลังใจให้ทีมงานที่พยายามจะCatch up กับเวลาที่มันดีเลย์ไปได้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews